เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นต่อตามแรงซื้อต่างชาติ


สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทมีแรงหนุนต้นสัปดาห์จากสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของต่างชาติและการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลต่อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนลงมาบางส่วน (ก่อนรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกในอังกฤษ) อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกบางส่วนช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ หลังจากที่เฟดมีมติเร่งปรับลดวงเงิน QE และ dot plot ใหม่สะท้อนการปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกครั้งปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ หลังธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือการคาดการณ์ของตลาด
 
- ในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.35 เทียบกับระดับ 33.47 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (9 ธ.ค.)  
 
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (20-24 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. ตัวเลขการส่งออกของไทย ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และจีดีพีไตรมาส 3/64 (final) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน  
สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย
 
- หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,641.73 จุดเพิ่มขึ้น 1.45% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 77,852.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.19% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.98% มาปิดที่ 570.19 จุด  
 
หุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ระหว่างรอผลการประชุมเฟด ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิดช่วงเทศกาลปีใหม่ก็มีส่วนช่วยหนุนหุ้นไทยให้ปรับขึ้น ก่อนจะเผชิญแรงขายกลับลงมาช่วงกลางสัปดาห์จากความกังวลต่อการศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังผลการประชุมเฟดออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์   
 
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (20-24 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,625 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,655 และ 1,665 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (22 ธ.ค.) ตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย.ของไทย สถานการณ์โควิด-19 และทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/64 ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนี PCE/Core PCE Price Indices เดือนพ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซน
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ธ.ค. 2564 เวลา : 21:35:05
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 7:57 pm