คุณภาพชีวิต
''เสลี่ยงทองออร์แกนิค'' ผลผลิตจากCONNEXT ED ซีพีเอฟเติมทักษะให้น้องๆ ผลิตอาหารปลอดภัย


"ศูนย์การเรียนรู้ผักออร์แกนิค (เสลี่ยงทองออร์แกนิค)" ของโรงเรียนบ้านเสลี่ยงทอง ตำบลนายางกลัก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ  ภายใต้การขับเคลื่อนการดำเนินงานของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี  (CONNEXT ED) ที่มีเป้าหมายยกระดับคุณภาพการจัดการการศึกษาของไทย  โดยมี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงาน

  


"เสลี่ยงทองออร์แกนิค" เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ  สร้างโอกาสให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวนนักเรียน 111  คน เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 2 - ประถมศึกษาปีที่ 6   ด้วยการปูพื้นฐานน้องๆ เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบัติ  สามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนาตนเองทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ ถ่ายทอดการเรียนรู้ได้จากรุ่นต่อรุ่น  ปลูกฝังทัศนคติและจิตสำนึกที่ดีของนักเรียนต่ออาชีพเกษตรกร   ส่งเสริมการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาพที่ดี และยังสามารถพัฒนาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน   
 
              
               
"คุณครูสุพจน์  สิทธิ์ขุนทด" คุณครูที่รับผิดชอบ"โครงการศูนย์การเรียนรู้ผักออร์แกนิค(เสลี่ยงทองออร์แกนิค)" เล่าที่มาของการทำโครงการปลูกผักปลอดสารเคมีว่า ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ปลูกผักสวนครัว จำเป็นต้องใช้สารเคมี เพื่อช่วยให้ได้ผลผลิต  ทางโรงเรียน ฯ มองถึงความปลอดภัยของอาหารที่เด็กๆและคนในชุมชนบริโภค จึงทำแผนเสนอของบประมาณสนับสนุนโครงการจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการคอนเน็กซ์อีดี  (CONNEXT ED)  ของซีพีเอฟ   เพื่อทำโครงการศูนย์การเรียนรู้ผักออร์แกนิค (เสลี่ยงทองออร์แกนิค) ปลูกผักอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยธรรมชาติในดิน โดยมีการสำรวจความต้องการของชุมชนก่อนที่จะเลือกพืชและลงแปลงปลูก หลังจากที่พบว่าชุมชนต้องการบริโภคผัก 5 ชนิด คือ ผักกาดขาว  ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม และกรีนโอ๊ค  ทางโรงเรียนจึงได้จัดสรรพื้นที่ในโรงเรียนประมาณ  2 งาน เพื่อปลูกผักแบ่งเป็น  2 โรงเรือน และสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1- ป.6 โดยโรงเรือนแรกให้นักเรียน ป.1-ป.3 ร่วมกันดูแลผักที่ปลูกและดูแลง่าย เช่น  ต้นหอม ผักชี  และอีกโรงเรือนให้นักเรียนชั้น ป.4- ป.6 ช่วยกันดูแล เช่น ผักกาดขาว ผักกาดหอม กรีนโอ๊ค  
 
         
"โรงเรียนฯได้บรรจุกิจกรรมโครงการปลูกผักปลอดสารพิษไว้ในคาบเรียนทักษะชีวิต ซึ่งเป็นชั่วโมงสุดท้ายของคาบเรียนทุกวัน เพื่อให้เด็กๆ ได้ลงมือปฎิบัติจริงและสามารถนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง เพราะหลายๆบ้านที่ผู้ปกครองมีการปลูกผักไว้เพื่อบริโภคในครัวเรือนอยู่แล้ว  หลังจากที่โรงเรียนฯได้รับการพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อทำโครงการนี้  ปัจจุบัน ลงแปลงปลูกผักรอบแรกไปแล้ว เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รอผลผลิตรอบแรกโตเต็มที่ จะเก็บผลผลิตส่วนหนึ่งจำหน่ายให้โครงการอาหารกลางวัน  เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้นักเรียน   ผลผลิตอีกส่วนหนึ่งจะจำหน่ายให้ชุมชน  จำหน่ายที่ตลาดชุมชนหลังจากที่นักเรียนเลิกเรียน และขายผ่านออนไลน์ผ่านเพจ Facebook โรงเรียน" คุณครูสุพจน์เล่า   
 
          

 "ด.ญ.แพรไพลิน โพธิ์นอก"  หรือ น้องไพลิน อายุ 12 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นป. 6  จิตอาสาวัยเยาว์ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ บอกว่า  เธอสนใจเข้าร่วมเป็นอาสาช่วยคุณครู เพราะเห็นว่าเป็นโครงการใหม่ที่โรงเรียนไม่เคยทำมาก่อน  และเป็นคนที่ชอบรับประทานผักอยู่แล้ว และที่บ้านปลูกต้นหอมไว้รับประทานเอง  เธอได้ความรู้เรื่องการผสมดินที่ส่วนผสมทั้งดินก้ามปู ดินไส้เดือน และดินร่วนทั่วไป  ช่วยให้ผักได้ผลผลิตที่เติบโตดี และยังนำเทคนิคนี้ไปบอกผู้ปกครองที่บ้าน    
 
   
"ด.ญ ธิชานันท์ ทองวิเศษ"   หรือ น้องการ์ตูน เพื่อนร่วมชั้นเรียนน้องไพลิน บอกว่า ที่บ้านของเธอปลูกต้นหอมและผักชีขาย จึงนำวิธีที่โรงเรียนใช้เรื่องการผสมดิน  การวัดค่าความชื้นของดิน  ความเป็นกรด -ด่าง ไปบอกพ่อและแม่ ขณะเดียวกัน เธอก็นำเทคนิคการปลูกต้นหอมให้งอกเร็วซึ่งเป็นวิธีที่พ่อแม่ใช้  มาแลกเปลี่ยนความรู้ให้กับเพื่อนที่โรงเรียน คือ การฝานปลายหัวหอมก่อนลงดิน  น้องการ์ตูน บอกด้วยว่า การที่เธอมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมโครงการปลูกผักของโรงเรียน นอกจากได้ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นทีม และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ เช่น  นักเรียนชั้นป.5 และป.6  แต่ละกลุ่ม แบ่งความรับผิดชอบมารดน้ำและดูแลแปลงผักในแต่ละวัน   
 
 
       
อาสารุ่นเยาว์อีกคนที่สมัครใจช่วยในโครงการฯ คือ "ด.ญ. ปรายฟ้า อาบสุวรรณ์" หรือ น้องกวาง  บอกว่า  โครงการนี้ทำให้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย บริโภคผักที่ปลอดสารพิษ  ไม่มีสารเคมีตกค้างเพราะเราไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย นอกจากนี้ นักเรียนที่เป็นแกนนำซึ่งส่วนใหญ่อยู่ชั้น ป.5 และ ป. 6  ได้เรียนรู้การเป็นผู้นำ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคุณครูและคำแนะนำจากพี่ๆ ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ของซีพีเอฟ  ถ่ายทอดให้กับน้องๆ และได้ประสบการณ์จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดกับคุณครู เพื่อที่จะนำผลผลิตของโรงเรียนไปวางขาย เป็นรายได้เข้าโรงเรียนต่อไป       
 
        
     
"นางสมพิศ  วิสิทธิ์ "   ครูรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ รร.บ้านเสลี่ยงทอง  กล่าวว่า โรงเรียนฯคาดหวังว่าโครงการนี้  นอกจากเด็กๆได้เรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ นำความรู้ไปแนะนำผู้ปกครอง เพื่อปรับทัศนคติจากที่ยังมีการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก และที่สำคัญ คือ  เป็นการผลิตอาหารปลอดภัย สร้างความมั่นคงทางอาหารของโรงเรียนและชุมชน ขณะที่การสำรวจความต้องการของผู้บริโภคก่อนการทำโครงการ ทำให้สามารถวางแผนในการเพาะปลูกได้ง่าย ลดปัญหาการตลาด       
 
  
       
ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี  (CONNEXT ED) ซึ่งปัจจุบัน ดูแลโรงเรียน CONNEXT ED จำนวน  301  แห่งทั่วประเทศ  ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ  นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสระบุรี  ผ่านการทำหน้าที่ของ School Partner ของซีพีเอฟ 65 คน ซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยให้คำแนะนำแก่โรงเรียนในการพัฒนาโครงการต่างๆ  และเป็นเพื่อนคู่คิด คอยช่วยเหลือและสนับสนุน  ในการวางแผนการทำงานร่วมกับโรงเรียน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5 ด้านหลัก   คือ 1. การเปิดเผยข้อมูลโรงเรียนสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส 2. กลไกตลาดและวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม 3. การพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน   4. เด็กเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างคุณธรรมและความมั่นใจ  และ  5. การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสถานศึกษา

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.พ. 2565 เวลา : 12:17:45
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 5:54 am