หุ้นทอง
บล.ไทยพาณิชย์ คาด SET วันนี้ ปรับลงได้ต่อ ให้แนวรับ 1,670 และ 1,660 จุด แนะกลยุทธ์ "รอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา"


# ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ยุโรปปรับขึ้น ราคาน้ำมันขึ้น 

ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน หลังรายงาน งบ บจ. 1Q65 และข้อมูลเศรษฐกิจออกมาไร้ทิศทาง ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น หลัง ECB คงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ส่วนราคาน้ำมันปรับขึ้น หลัง EU เตรียมคว่าบาตรการนำเข้าน้ามันจากรัสเซีย
 
# เข้าสู่การรายงานงบ 1Q65 หุ้นกลุ่มธนาคาร
คาด +15%QoQ หนุนจาก opex ที่ลดลงตามและการตั้งสำรองลดลง และคาด +7%YoY หนุนจากรายได้สุทธิที่สูงขึ้นตามสินเชื่อเติบโต 6% YoY โดยธนาคารที่คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ,YoY คือ BBL KTB KBANK BAY ส่วน TCAP KKP คาดโตYoY หดตัว QoQ ส่วน TISCO หดตัวทั้ง QoQ, YoY หุ้นเด่นของเรายังเป็น BBL และ KBANK
 
# สัปดาห์นี้ติดตามยอดส่งออก-นำเข้า มี.ค. ของไทย
ประเด็นในประเทศ 22 เม.ย. รายงานตัวเลขส่งออก มี.ค. คาด+1.25%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ +16.2%YoY ส่วนประเด็นต่างประเทศ 18 เม.ย. GDP 1Q65 ของจีน คาด 4.2%YoY นอกจากนี้ติดตามถ้อยแถลงของ ปธ. Fed และ ปธ. ECB วันที่ 21 เม.ย. รวมทั้งการประชุม IMF 18-23 เม.ย.
 
“ปรับลงได้ต่อ กังวลโควิดพุ่งและการเร่งขึ้นดอกเบี้ย”
คาด SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่1670 และ 1660 จุด ตามลำดับ จากความกังวล 1)ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีโอกาสพุ่งขึ้น หลังสงกรานต์และ 2) นโยบายการเงินที่ตึงตัว เพื่อสกัดเงินเฟ้อของบรรดาธนาคารกลาง และ 3) ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจใน Q1/65 มีแนวโน้มชะลอตัว หลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานระดับสูงกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นเชิงรับ ที่มีคุณภาพ มีปัจจัยบวกเฉพาะเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
ล็อคเป้ำลงทุน
 
> ช่วงสั้นมองตลาดมี Upside จำกัดบริเวณ 1700 จุด และมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากความเสี่ยงภายนอก อาทิ การลด QE, การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ, การล็อกดาวน์เมืองใหญ่ของจีนเพื่อคุมการระบาดของ COVID-19 รวมทั้งความเสี่ยงจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของไทยเองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนา “รอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา” ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน ดังนี้
 
> Core Portfolio : คงน้ำหนักพอร์ตไว้ที่ 50% โดย Let Profit Run สาหรับหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจากัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC ONEE
 
> Weekly Portfolio : เก็งกาไร 25% ใน 1) หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อจำกัด เลือก ADVANC BDMS GULF 2) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกการบริโภคภาคเอกชนไทยฟื้นตัว เลือก CPALL BJC AH LH ZEN และ 3) หุ้น Low Beta และให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 7% เลือก TISCO (XD 29 เม.ย. นี้)
 
> ช่วงสั้นแนะนำเพิ่มความระมัดระวังลงทุนหรือรอซื้อเมื่ออ่อนตัวในหุ้นเปิดเมือง (AOT MINT AWC CENTEL ERW) ซึ่งแม้จะได้อานิสงส์บวกจากแผนเปิดประเทศในครึ่งปีหลัง แต่ช่วงสั้นมีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่จะสูงขึ้นหลังสงกรานต์
 
> Daily Focus : PTTEP ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นหลังกังวล EU กำลังร่างมาตรการคว่ำบาตรนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent +10.1%DoD และ WTI +9.4%WoW และ BDMS ซึ่งทนทานความผันผวนของตลาดได้ดี โดย 1Q65 คาดกำไรปกติทำนิวไฮที่ 2.96 พันลบ. เพิ่มขึ้น 2 เท่า YoY ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์จะช่วยเพิ่ม Upside ของประมาณการปี 65 ที่คาดจะเติบโต 21%YoY

LastUpdate 18/04/2565 11:23:14 โดย : Admin
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 5:13 am