เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าขณะที่หุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน


 
• เงินบาทยังคงอ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ รับท่าทีหนุนการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด
• หุ้นไทยปรับตัวลงตามการปรับพอร์ตลดเสี่ยงของนักลงทุนก่อนหยุดยาวและก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/65 ของบจ.
 
สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
เงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงิน ดอลลาร์ฯ เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ของตลาดในประเทศ โดยการอ่อนค่าของเงินบาท
สอดคล้องกับทิศทางของค่าเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ปรับแข็งค่าขึ้นตามการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ระดับสูงของเฟดมีท่าทีสนับสนุนความเป็นไปได้ที่จะมีการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมใกล้ๆ นี้เพื่อสกัดการทะยานขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐฯ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิ พันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน

ในวันอังคาร (12 เม.ย.) เงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 33.70 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ 33.65 บาทต่อ ดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 เม.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย.
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยเพียง 347.29 ล้านบาท และมีสถานะเป็น NET OUTFLOW ในตลาดพันธบัตร 6,710.30 ล้านบาท (มาจาก การขายสทุ ธิพันธบัตร 3,510.30 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 3,200 ล้านบาท)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.50- 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัย
สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสา รวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิ ลาเดลเฟี ย และดัชนีเบื้องต้นของ PMI เดือนเม.ย. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการกาหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนเม.ย. ของธนาคารกลางจีน และข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/65 และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
หุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนมีการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวระหว่างรอติดตามผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 ของบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ การปรับตัวลงของหุ้นไทยยังสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบ้ยี นโยบายของสหรัฐฯ ขณะที่สถานการณ์โควิดในภาพรวมของไทย รวมถึงความ
ขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงยืดเยื้อ

ในวันอังคาร (12 เม.ย.) ดัชนี SET ปิ ดที่ระดับ 1,674.34 จุด ลดลง 0.69% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 61,805.73 ล้านบาท ลดลง 18.23% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.27% มาปิดที่ 655.67 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จากัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่1,665 และ 1,650 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,685 และ 1,700 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 ของบจ. โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. รวมถึงจำ นวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอ่นื ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนตัวเลขจี
ดีพีไตรมาส 1/65 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

LastUpdate 18/04/2565 13:30:30 โดย : Admin
02-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 5:15 am