คาด SET มีแนวโน้มอ่อนตัว โดย bond yield กลับมาปรับขึ้นต่อ ในขณะที่ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และเงินบาทเริ่มอ่อนค่า เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายทำกำไร หลังดัชนีขึ้นมาร้อนแรงจากทิศทาง fund flow ที่ไหลเข้ามาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1650 และ 1645 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนคาดถูกจำกัดที่แนวต้าน 1668 จุด
ประเด็นสำคัญ
• รัสเซียหยุดจ่ายก๊าซให้หลาย ปท. ในยุโรป เพื่อตอบโต้ที่ไม่ชำระค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล ส่งผลราคาก๊าซพุ่ง
• WHO เตือนโรคฝีดาษลิงเสี่ยงแพร่ระบาดแรงในยุโรปและพื้นที่อื่นๆ ช่วงฤดูร้อนนี้ ล่าสุดระบาดแล้วกว่า 33 ปท. มีผู้ป่วยกว่า 570 ราย
• กกร.คงเป้า GDP ปี 65 ที่ 2.5-4.0% ส่งออกคาดขยายตัว 3-5% เงินเฟ้อทั่วไป 3.5-5.5% โดย ศก.ที่ชะลอลงจากต้นทุนพลังงานและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่การท่องเที่ยวและการส่งออกยังขยายตัวได้
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้น SET จะฟื้นตัวบนความคาดหวังจากจีน เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจและคลายล็อกดาวน์มากขึ้น แต่ตลาดยังมีความผันผวน โดยมองจะจบรอบขาลงหรือปรับฐานจะต้องมีภาพของเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดก่อน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นปลอดภัยและมีคุณภาพดีเป็นหลัก
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนจากปัจจัยภายนอกที่ยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้นจึงแนะนำเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีโมเมนตัมกำไรดีต่อเนื่องหรือมีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้นที่กำไร 1Q65 ดีเกินคาด และ 2Q65 โมเมนตันกำไรดีต่อเนื่อง เลือก IVL AMATA MTC CPALL
2) หุ้นที่กำไรผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q65 เลือก OSP
3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากสหรัฐมีแผนยุติสงครามการค้ากับจีนหรือลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนซึ่งจะทำให้กิจกรรมทาง ศก. ดีขึ้น เลือก AH DELTA
Daily Focus
BLA ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นจะได้อานิสงส์บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนปี 2565-2567 มองผลประกอบการจะฟื้นตัวต่อเนื่องจาก Margin ที่ดีขึ้น
CPF 2Q65 คาดกำไรจะดีขึ้น QoQ จากราคาสัตว์บกที่ดีขึ้น และการกลับมาของแรงงานในโรงงานไก่เนื้อในประเทศ ขณะที่ทั้งปี 65 คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่น YoY จากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมรวมทั้งธุรกิจสัตว์บกในไทยและธุรกิจสุกรในเวียดนามที่ดีขึ้น
ข่าวเด่น