.png)
ภาพรวมทองคำในเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลง เนื่องจากเงินเฟ้อเดือนเมษายนยังสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 8.3% ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% โดยความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี บริเวณ 3.13%
สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่เร่งตัวขึ้นแตะ 105 ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี กดดันราคาทองคำให้ย่อตัวลงบริเวณ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ SPDR เทขายกว่า -45.34 ตัน นับเป็นการเทขายมากที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2021
ครึ่งเดือนหลังทองคำเริ่มรีบาวด์กลับหลังรายงานผลการประชุม FOMC ระบุว่าเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ในการประชุมเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมโดยยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น ทำให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงบริเวณ 101.29 ดอลลาร์ หนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นบริเวณ 1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่SPDR กลับมาซื้อช่วงครึ่งเดือนหลัง +20.6 ตัน ส่งผลให้ปิดเดือน SPDR ขายสุทธิเหลือเพียง -24.74 ตัน
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ในเดือนนี้ทองคำอาจถูกกดดันจากการที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5% พร้อมทั้งเริ่มลดงบดุลกว่า 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ อีกทั้งแนวโน้มเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมยังทรงตัวระดับสูง จากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทรงตัวเหนือระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมออกมาสูงกว่าเดือนเมษายนอาจเป็นเหตุให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาดการณ์ เราคาดราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,780-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้ระวังแรงขายที่แนวต้านเนื่องจากคาดว่าเฟดยังปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค และตลาดหุ้นสหรัฐ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. ของสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดในวันศุกร์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,647.67 จุด -12.34 จุด -0.74% มูลค่าการซื้อขาย 57,593 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Down โดยความกังวลที่ว่าเฟด เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยยังคงอยู่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,670 จุด
สำหรับหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ได้แก่ หุ้น SPRC ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 12.50 บาท ราคาอยู่ในทิศทางกรอบขาขึ้น โดยมีปริมาณการสะสมต่อเนื่อง และ MACD เพิ่งพลิกตัวส่งสัญญาณซื้อ คาดราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบต้านที่ 13.00-13.50 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 12.00 บาท มีจุด cut loss อยู่ที่ 11.80 บาท
และหุ้น NSL ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 17.80 บาท ดีดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อม Volume เข้าสองวันติด และ Slow Sto.+MACD มีค่าสัญญาณซื้อ หากผ่านต้านแรกที่ 18.50 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 19.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 17.30 ขาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 17.00 บาท
ข่าวเด่น