คาด SET ปรับตัวลง โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง รวมถึงการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1550 และ 1535 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1580-1590 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้จะกลับมาเป็นสัญญาณบวก
ประเด็นสำคัญ
• BoE ปรับขึ้น ด.บ. 0.25% สู่ 1.25% สูงสุดในรอบ13 ปี ส่วนวันนี้ติดตามการประชุม BoJ คาดยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไป
• คลังจะเสนอ ครม. พิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ให้บริษัทนำ คชจ.พา พนง.เที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า เมืองรอง 2 เท่า เริ่ม 15 ก.ค.ถึงสิ้นปีนี้ เป็น sentiment บวกระยะสั้นต่อกลุ่มท่องเที่ยว เลือก AOT AWC ERW ราคาหุ้นยังต่ำกว่า Pre-Covid
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองความเสี่ยงหลักยังไม่เปลี่ยนแปลงและอยู่ในระดับสูง ทั้งนโยบายการเงินที่ตึงตัวกว่าที่คาดซึ่งมาพร้อมกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้ตลาดมองไปที่ Downside มากกว่า Upside ซึ่งจะทำให้ตลาดผันผวน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : เน้นหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะดังนี้1) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก KBANK BBL BLA 2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สนใจหุ้นที่ราคาปรับลงมาแรงแล้ว ทำให้มี Risk/Reward ที่ดี อีกทั้งได้ผลบวกปัญหาอุปทานคลี่คลายลงและอุปสงค์ปรับตัวดีขึ้น อย่าง DELTA KCE MAKRO CBG
หุ้นค้าปลีกน้ำมัน-โรงกลั่นคาดได้รับ sentiment เชิงลบระยะสั้น จากรัฐบาลขอความร่วมมือ 1) คงค่าการตลาดไว้ที่ 1.4 บาทต่อลิตร มองกระทบเชิงลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน 2) ขอโรงกลั่นนำส่งกำไรส่วนเกินจากการกลั่นน้ำมันเดือนละ 6-7 พันลบ. เข้ากองทุนน้ำมันตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. 65 มองกระทบเชิงลบต่อกลุ่มโรงกลั่นอย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเข้าร่วมมาตรการบ้าง อ้างอิงเหตุการณ์ในอดีตโรงกลั่นต่างชาติมีความเสี่ยงน้อยกว่าโรงกลั่นไทย และ 3) ขอโรงแยกก๊าซฯ ของ PTT ที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้ภาคปิโตรเคมี น าส่งกำไรส่วนเกินเข้ากองทุนน้ำมัน คาดได้เงิน 1.5 พันลบ. ต่อเดือน ทั้งนี้การประเมินดังกล่าวยังต้องรอความชัดเจนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อน เบื้องต้นบริษัทที่เกี่ยวข้องยังไม่ตอบรับข้อเสนอของรัฐบาล เชิงกลยุทธ์เรามองว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นความเสี่ยงเชิงนโยบายที่อาจกระทบต่อผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันและโรงกลั่น ซึ่งคงต้องรอจนกว่าจะมีความชัดเจน
Daily Focus
GFPT 2Q65 คาดกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ส่วนปี 65 คาดกำไรจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มอาหาร จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น เพราะยอดขายส่งออกที่ให้มาร์จิ้นสูงจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่และมีส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับต้นทุนที่กว้างขึ้น
BBL ได้ประโยชน์วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ Valuation น่าสนใจซื้อขายด้วย PBV 22F ต่ำที่ 0.5x เทียบกับ ROE ที่ 6.3% ทำให้เป็นหุ้น laggard play มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนแนวโน้มกำไรที่เติบโตดีขึ้น รวมทั้งมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุดในกลุ่ม
ข่าวเด่น