เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
TISCO วิเคราะห์ ทิศทางตลาดวันนี้ : ลงต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพิ่มความกังวล Recession


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -32.44 จุด ทำโลว์ใหม่ในรอบ 10 เดือน หวั่น Recession SET ผันผวนในกรอบกว้าง 1560-1604 โดยภาคเช้ารีบาวด์ตามทิศทางหุ้นตปท. หลัง FED ขึ้นดบ. 0.75% ตามคาด เชื่อว่า FED จะกดเงินเฟ้อลงได้ แต่ภาคบ่ายเผชิญแรงขายลดความเสี่ยง หลังดัชนีหุ้นตปท.ในตลาดล่วงหน้าร่วงกว่า 2% วิตกศก.โลกหดตัวแรง ต่างชาติขายสุทธิหนัก 5.8 พันลบ. และ Short S50 Futures 52,473 สัญญา 5 วันติด 

 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลงต่อ นโยบายการเงินที่เข้มงวดเพิ่มความกังวล Recession หุ้นโลกเมื่อวาน (16 มิ.ย.) ร่วงลงต่อ หุ้นสหรัฐฯ ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2020 โดยดัชนี DJ หลุดระดับ 30,000 จุด ขณะที่ NASDAQ -4% การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด (Hawkish) ของหลายธนาคารกลางสร้างความกังวลมากขึ้นต่อศก.จะเผชิญภาวะถดถอย (Recession) โดยการประชุม BOE ขึ้นดบ. 0.25% เป็น 1.25% ตามตลาดคาดด้วยมติ 6 : 3 (คณะกรรมการ 3 ท่านหนุนขึ้นดบ. 0.50%) ส่วน SNB สร้างความประหลาดใจแก่ตลาด โดยปรับขึ้นดบ. 0.50% นับเป็นการขึ้นดบ.ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ด้านข้อมูลศก.สหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านสหรัฐฯ -14% ใน พ.ค. แย่กว่าตลาดคาด และดัชนีชี้วัดภาคธุรกิจ Philadelphia ติดลบ 3.3 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ค. 2020 ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI รีบาวด์ 2% ปิดที่ 117.58 $/bbl หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ และอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว  มอง SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ จากความกังวลศก.โลกเสี่ยงถดถอยจากการเร่งดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของหลายธนาคารกลาง ขณะที่บาทอ่อนค่าสุดใหม่ในรอบ 5 ปี แตะ 35.2 บ./$ ซ้ำเติมกระแสเงินทุนตปท.เป็นลบ ด้าน Bond Yield ที่อ่อนตัวลง เรามองเป็นผลจากนลท.แห่โยกเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ คาดราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทั้งโรงกลั่นและปั๊มน้ำมันถูกกดดันหลังรัฐบาลขอความร่วมมือช่วยตรึงราคาน้ำมัน วันนี้แนะนำการประชุม ศบค. คาดผ่อนปรนกฎเกณฑ์การเข้าปท.เพิ่ม, การประชุม BOJ คาดคงดบ.ที่ -0.1%, FTSE Rebalancing คาดขายปรับพอร์ตหุ้นไทยเล็กน้อยราว 1.4 พันลบ. แนวรับ 1550, 1540 แนวต้าน 1580-85 
 
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นแนะ Wait & See , พอร์ตลงทุน รอย่อทยอยสะสม
SET ทำโลว์ใหม่ในรอบ 10 เดือนที่ 1560 ภาพเป็นลบมากขึ้น ระยะสั้นยังแนะ Wait & See เป็นกลยุทธ์หลัก หากตลาดรีบาวด์ทางเทคนิค จะมีแนวต้าน 1580-85, 1600-1605 ตามลำดับ / พอร์ตลงทุน หาจังหวะอ่อนตัวสะสม
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick HMPRO – หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลงล่าสุด ทำให้ Upside เปิดกว้างขึ้น เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”, คาดยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSg) จะเริ่มฟื้นตัวใน Q3 เป็นต้นไป และผลกระทบจากฐานต่ำ นอกจากนี้หากบริษัทสามารถจัดงาน Hmpro Expo ได้น่าจะสนับสนุนการเติบโตของกำไรในครึ่งปีหลัง, เป้าพื้นฐาน 14.7 บ. / หุ้นได้ประโยชน์จากบาทอ่อนและราคาหุ้นยังมี Upside > 10% - AGRI & FOOD : CPF, GFPT, SAPPE, TU, TWPC / ETRON : KCE / อื่นๆ : SMPC / หุ้นได้ประโยชน์จากดบ.ขาขึ้น BBL, KBANK, SCB / หุ้นคาดจะเข้า SET50 - BJC, JMT, JMART ออก – COM7, RATCH, STGT / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing ไตรมาสนี้ - BJC, KCE, SCC / หุ้น Re-opening ที่เบื้องต้นคาดงบ Q2 จะออกมาดี ชอบ BDMS, BEM, CPALL, CRC, MAJOR, MAKRO / หุ้น Defensive Value ที่สามารถลงทุนได้ทั้งระยะสั้น-กลาง – ADVANC, DCC, BDMS, EGCO 
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) CENTEL, KBANK / หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AP, BDMS, BEM, EGCO, JMT, MAJOR 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 มิ.ย. 2565 เวลา : 11:47:21
29-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 29, 2024, 10:13 pm