ภาพรวมทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากเฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ทำให้กรอบดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ 1.50%-1.75% และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐอ่อนตัวลงสู่ 3.15% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่ปรับลงสู่ระดับ 103.85 ช่วยหนุนให้ทองคำรีบาวด์ขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ต่อมาช่วงกลางสัปดาห์เฟดแถลงต่อวุฒิสภาว่า “เฟดจะทำทุกวิถีทางที่จะกดเงินเฟ้อ” โดยไม่มีมุมมองเชิงลบเพิ่มเติม แต่ตลาดกังวลว่าการเร่งขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ความกังวลดังกล่าวทำให้ปลายสัปดาห์ทองค่ำอ่อนตัวลง ขณะที่ SPDR ในสัปดาห์นี้เทขาย 12.47 ตัน
สัปดาห์นี้จับตาประกาศตัวเลขเงินเฟ้อส่วนบุคคล หรือ Core PCE เดือนพฤษภาคมที่มีโอกาสทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ตลาดกังวลว่าเฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะทำให้เศรษฐกิจถดถอย จึงเกิดแรงเทขายน้ำมันดิบส่งผลให้ราคาปรับตัวลงจากระดับ 122 เหรียญต่อบาร์เรล เหลือ 102 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งน้ำมันเป็นโครงสร้างหลักของเงินเฟ้อสหรัฐ
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ 1,800-1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากยังไม่มีประกาศตัวเลขที่สำคัญ ในระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทยอยเข้าซื้อสะสม
ส่วนบรรยสกาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ตลาดรีบาวด์หลังจากดัชนีลงมาเคลื่อนไหวในโซนล่างช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับมาเร่งตัวในภาคบ่าย จากหุ้น Big Cap. ทั้งหุ้นกลุ่ม ICT, โรงไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างอย่าง SCC, ADVANC ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,568.76 จุด +11.15 จุด +0.72% มูลค่าการซื้อขาย 65,887 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Down โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ คาดดัชนีในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,580 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น GPSC ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 66.75 บาท ลุ้นเกิดรูปแบบกลับตัว W Shape พร้อมวอลุ่มเพิ่มขึ้นสนับสนุน สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่ปรับตัวขึ้นทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ มีแนวรับอยู่ที่ 66.00 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 65.50 บาท
และหุ้น DTAC มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 46.25 บาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแบบ Sideway up พร้อมกลับมายืนเหนือเส้น EMA ทุกเส้นอีกครั้ง สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทาง มีแนวรับอยู่ที่ 45.50 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 45.00 บาท
ข่าวเด่น