ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมครั้งถัดไปรวมถึงแรงเทขายจากกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.9 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,016.89 ตัน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้แก่ PPI m/m ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และ Unemployment Claims ออกมาเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ Core PPI m/m ออกมาลดลงจากเดิม ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ วันนี้ดูจะทรงตัวหรือออกมาในเกณฑ์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ Retail Sales m/m คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม ขณะที่ Prelim UoM Consumer Sentiment คาดการณ์ว่าจะลดลงจากเดิมเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้ยังยืนอยู่เหนือระดับ 108 จุด โดยเคลื่อนตัวอยู่ในระดับสูง มีการแข็งค่าขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 109.14 จุด เช้านี้ย่อตัวลงมาอยู่ที่บริเวณ 108.4 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปถึง 36.68 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวานนี้ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 36.62 บาทต่อดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่บริเวณ 1,697 เหรียญ โดยยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,695 เหรียญ และแนวต้าน 1,725 เหรียญ เช่นเดียวกับ Gold Comex กลยุทธ์ยังแนะนำเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,700 เหรียญ และแนวต้าน 1,730 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,350 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 29,800 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q22 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 29,850 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำ Open Short เน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาลง ปิดทำกำไรเป็นระยะ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เน้นเทรดระยะสั้น เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวันและควรมี Stop Loss หากราคาหลุดแนวรับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เปิดสถานะตามแนวต้าน และทยอยปิดสถานะทำกำไรตามกรอบแนวรับเมื่อราคาลงมา
ข่าวเด่น