ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ผันผวน หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวในไตรมาส 2/65 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน รวมไปถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 2 ปี และการใช้จ่ายทางภาคธุรกิจที่ปรับตัวลดลง
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.ค. 65 ปรับตัวลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ซื้อขายที่ราคาติดลบอย่างมากเมื่อเทียบกับเบรนท์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Nextier oilfield solutions บริษัทที่ดำเนินการด้านการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กล่าวว่า การผลิตในสหรัฐฯ อาจไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มากนัก เพราะกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ด้านการขุดเจาะและแรงงาน รวมถึงข้อจำกัดด้านการลงทุน
ราคายังได้รับแรงหนุนจากสงครามด้านพลังงานระหว่างรัสเซียกับกลุ่มชาติตะวันตก โดยบางประเทศในยุโรปนั้นมีเป้าหมายที่จะจำกัดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย ในขณะเดียวกัน รัสเซียได้ตัดการจ่ายก๊าซผ่าน Nord Stream 1 เหลือเพียง 20% ของกำลังการผลิต นักวิเคราะห์กล่าวว่าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนจากก๊าซมาใช้น้ำมันดิบและหนุนราคาน้ำมันในระยะสั้นได้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของอินเดียจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ภายในประเทศที่ลดลงท่ามกลางปัญหาน้ำท่วมทางตอนใต้ของอินเดีย อย่างไรก็ดีตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในอินโดนีเซียที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่อยู่ในระดับดีอย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากญี่ปุ่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวเด่น