ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังจากที่ดัชนีดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐฯ ที่ออกมาเริ่มชะลอตัวลง สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ JOLTS Job Openings คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม โดยในวันศุกร์มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ Non-Farm Employment Change คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าเล็กน้อย โดยเมื่อวานดัชนีดอลลาร์เปิดที่ 105.82 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ 105.24 จุด ขณะที่เช้านี้อยู๋ที่ 105.28 จุด ขณะที่ภาพรวมค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากระดับ 36.35 บาท/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 36.02 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 36.00 – 36.30 บาท/ดอลลาร์ โดยทิศทางค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องและมีโอกาสหลุดระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ลงมา ด้านกองทุนทองคำ SPDR ถือครองเท่าเดิมที่ 1,005.87 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้นแถวบริเวณ 1,780 เหรียญ โดยมีการแกว่งตัวเล็กน้อย ซึ่งทองคำสามารถยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางบริเวณ 1,750 เหรียญได้ ทำให้ภาพรวมในระยะสั้น และระยะกลางเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยราคาเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1,785 เหรียญ และ 1,800 เหรียญตามลำดับ
สำหรับ Gold Online Futures และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,765 เหรียญ และแนวต้าน 1,795 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,050 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,550 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,450 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำให้เทรดระยะสั้น ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ลงซื้อ ขึ้นขาย โดยจะมีกรอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,785 เหรียญ และ 1,800 เหรียญ ที่มีโอกาสเกิดแรงเทขายลงมาเมื่อขึ้นไปทดสอบ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ยังแนะนำเทรดระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
รอเปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว เน้นเทรดระยะสั้นๆและควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น