ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความคาดหวังว่าภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลง รวมถึงความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีนจะบรรเทาลง หลังจากจีนหยุดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง อย่างไรก็ตาม ไต้หวันออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศจะซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเพื่อรับมือการรุกรานจากจีน ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,800 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง ขณะที่ Gold Futures ขึ้นมายืนเหนือบริเวณ 1,815 เหรียญ ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานเปิดที่ 106.23 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 106.17 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 106.16 จุด ในส่วนของค่าเงินบาทปรับแข็งค่าต่อเนื่องขานรับการประชุม กนง. ในวันนี้ โดยคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% - 0.50% ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ 7.61% สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในวันนี้ ได้แก่ CPI m/m คาดว่าจะปรับตัวลดลง ซึ่งหากปรับตัวลดลงตามที่คาด อาจจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากเฟดจะลดความตึงเข้มในการปรับขึ้นดอกเบี้ยลง สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ปัจจุบันถือครองทองเท่าเดิมที่ 999.16 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบลักษณะ Sideways Up โดยพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านระยะกลาง 100 วันที่บริเวณ 1,800 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,785 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,805 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,790 เหรียญ และแนวต้าน 1,825 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,850 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,350 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ลงทุนในกรอบ Sideways Up ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ลงซื้อขึ้นขายยังเน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ยังแนะนำเทรดระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะหรือรอเปิดบริเวณแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้นๆ และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น