เงินเฟ้อสหรัฐ ก.ค. ขยายตัว 8.5%YoY ต่ ากว่าคาด ทางด้าน FedWatch Tool เพิ่มโอกาสที่ Fed ขึ้น ด.บ. 0.5% ใน ก.ย.เป็น 61.5% ส่วนขึ้น 0.75% เหลือเพียง 38.5%
• เงินเฟ้อจีน ก.ค. สูงสุดในรอบ 2 ปี จากราคาเนื้อหมูพุ่งสูง 20%
• จีนยุติซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันแล้ว แต่ยังจับตาสถานการณ์ต่อไป
• ฮ่องกงลดกักตัว นทท. ต่างชาติจาก 7 เหลือ 3 วัน หนุนยอดจองเที่ยวบินขาเข้า-ขาออกเพิ่มขึ้น คาดไทยเป็นเป้าหมายท่องเที่ยว
• ราคาน้ ามันร่วง หลังจากยูเครนเปิดท่อส่งน้ำมันไปยังยุโรปแล้ว
• กนง.ขึ้น ด.บ. นโยบาย 0.25% ตามคาด ขณะที่สมาคมธนาคารไทยแถลงขึ้น ด.บ. ค่อยเป็นค่อยไปเพื่อชะลอผลกระทบลูกค้ารายย่อย คาด ธ.พ.จะชะลอไม่ขึ้น ด.บ.ตามใน 3 - 4 เดือนจากนี้
• วันนี้ คกก. เศรษฐกิจเฉพาะกิจฯ หารือมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า หลัง กกพ.ยืนยันปรับขึ้นค่า Ft งวด ก.ย.-ธ.ค. นี้
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดการเงินเริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเฟ้อพื้นฐาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอตัวลง ทำให้เป็นไปได้ว่าเฟดจะเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นไทยช่วงสั้นคาดยังผันผวนขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรงบ 2Q65 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัย
บวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรฟื้นตัวดี
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการของกลุ่ม
real sector จึงเน้นเลือกกลุ่มลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัม
กำไรดี ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 2Q65 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก ERW MINT CRC AOT
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Fund Flow ที่มีทิศทางไหลเข้า และภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก BBL KBANK KTB
3) หุ้นพลังงานซึ่งคาดกำไร 2Q65 เติบโตดีและมองราคาน้ ามันปรับตัวลงมาใน
จุดที่น่าสนใจแล้ว เลือก PTT BCP ประเด็นข่าวกระทรวงแรงงานเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8%เบื้องต้นจากการศึกษาผลกระทบของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ าที่มีต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของ บจ. พบว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-10% จะกระทบต่อกำไรสุทธิของตลาดลดลงราว 2-5% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดจะได้รับผลกระทบเชิงลบมากสุด นำโดย กลุ่มขนส่งพัสดุ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (กระทบกำไรลงราว 6-12%) และกลุ่มอาหาร (กระทบกำไรลงราว 10%)
IVL 2Q65 กำไรออกมาดีเกินเราและตลาดคาด ขณะที่ 2H65 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง YoY จากการรับรู้ผลประกอบการของ Oxiteno ทั้งนี้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2565 เพิ มขึ้น 18% และปรับราคาเป้าหมาย (สิ้นปี 2566) เพิ่มขึ้นสู่ 66 บาท อ้างอิง PBV 1.7 เท่า
AOT 3QFY65 (เม.ย.-มิ.ย. 65) คาดขาดทุนสุทธิ 2.4 พันลบ. ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 4.1 พันลบ. ใน 3QFY64 และ 3.3 พันลบ. ใน 2QFY65 หนุนจากจำนวนผู้โดยสารระหว่าง ป.ท. เพิ่มขึ้นหลังกลับมาเปิด ป.ท. อีกครั้งคาดขาดทุนปกติลดลง 3Q-4QFY65 และจะพลิกมีกำไรใน FY2566
ข่าวเด่น