คริปโตเคอเรนซี่
Scoop : "XSPRING" ผนึก "KTC" ปฏิวัติวงการสินเชื่อ ออกบัตรกดเงินสด "KTC - XSPRING" เสริมสภาพคล่องชาวคริปโต


 

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปี 2022 เป็นช่วงเวลาที่สาหัสสากรรจ์สำหรับภาคเศรษฐกิจทั่วโลก ที่กำลังพยายามฟื้นฟูตัวเองหลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปี 2020 แต่กลับต้องมาเผชิญกับวิกฤติซ้ำเติมอย่างสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาของ Supply Shock ครั้งยิ่งใหญ่ อันเป็นบ่อเกิดของสภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปีของสหรัฐ และกระทบลุกลามไปยังทุกประเทศ จน Fed ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาต้องออกนโยบายการเงินที่ตึงตัว ทั้งการทำ QT ดึงเงินออกจากระบบ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดในรอบ 28 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อให้อยู่หมัด


โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น Side Effect คือต้นทุนการใช้ชีวิต (Cost of Living) นั้นสูงขึ้นอย่างมาก อำนาจการจับจ่ายใช้สอยที่น้อยลง จนต้องรักษากระแสเงินสดของตัวเองเพื่อความอยู่รอดเป็นสำคัญ ทำให้ในแง่ของภาคการลงทุนนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง เพราะนักลงทุนต่างกระโดดหนีตายจากตลาดลงทุนต่างๆ เพื่อกอดเงินสดเอาไว้กับตัวเอง จนทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงอย่างเหรียญคริปโตและโทเคนนั้นตกลงไปอย่างน่าใจหาย ด้วยสภาวะที่ตลาดตกอยู่ในความกลัวนี้เอง ที่ Volume การซื้อขายบนกระดานเทรดแทบจะไม่เข้า (หากเทียบกับปีก่อนหน้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด) นักลงทุนคริปโตจำนวนมากจึงติดอยู่ในสถานะ "ติดดอย" ไม่สามารถนำสินทรัพย์เหล่านั้นมาขายเพื่อทำกำไรได้ หรือไม่สามารถเอามาก่อประโยชน์อะไรเพิ่มเติมได้เลย สิ่งที่ทำได้อย่างเดียว คือ การรอให้ Volume กลับเข้ามาในตลาด หรือไม่ก็ต้องยอม Cut Loss ขายขาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวเอง
 

 
 
จากภาพดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเองจึงเป็นเหตุผลที่ XSPRING หรือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่ต่อยอดความเชี่ยวชาญโลกการเงินปัจจุบัน สู่โลกบริการทางการเงินดิจิทัล หรือ Digital Financial Service เล็งเห็นโอกาสขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ จึงผนึกกำลังกับ "KTC" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย สร้างปรากฏการณ์พลิกวงการการเงินไทย ด้วยการปล่อยสินเชื่อเงินสดที่รองรับสินทรัพย์ทุกประเภทเป็นหลักประกัน เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเพิ่มสภาพคล่อง และมีเงินหมุนเวียนในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น โดยประเดิมเฟสแรกด้วยการเปิดให้บริการเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ ร่วมกับ “เคทีซี” ออกบัตรกดเงินสด "เคทีซี-เอ็กซ์สปริง" (KTC - XSPRING) โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนสิงหาคมนี้
 

 
 
 
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเปิดตัวสินเชื่อบัตรกดเงินสด เคทีซี-เอ็กซ์สปริง ว่า เราเชื่อว่าการจับมือกับเคทีซีครั้งนี้ จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินไทยและปฏิวัติวงการสินเชื่อ เพราะเป็นการเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้ โดยที่ XSPRING เป็นรายแรก และรายเดียวในเมืองไทยที่สามารถให้บริการนี้ได้ ซึ่งเรามองว่าเคทีซีเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อรายย่อย ขณะที่ XSPRING เองก็มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบกับภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในภาวะผันผวน ขณะที่ตลาดสินเชื่อรายย่อยยังคงมีการเติบโตได้ดี จึงมั่นใจว่าการผนึกกำลังกันครั้งนี้ จะทำให้การก้าวเข้ามาดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อร่วมกันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

 
 
ทั้งนี้ เอ็กซ์สปริง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5 - 7 พันล้านบาท ภายใน 3 ปี พร้อมคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5 -10% (จากยอดซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยในปัจจุบันที่มีมูลค่าล่าสุดอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท) จึงมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท เอ็กซ์สปริง อัลไลแอนซ์ จำกัด อีกทั้งยังเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลังพร้อมด้วยโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ในการเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการจะเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้จากบัตรกดเงินสด“เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) จะต้องมีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด อยู่ก่อนการใช้บริการเพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนเองถือครองอยู่มาเป็นหลักประกัน ทั้งยังวางแผนที่จะเปิดรับเหรียญคริปโตสกุลยอดนิยมและโทเคนมาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

โดยในช่วงแรกของการเปิดตัว จะเปิดรับหลักประกันสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเหรียญคริปโตที่มี Market Cap หรือมูลค่าในตลาด    คริปโตสูงที่สุดก่อน อย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เพื่อป้องกันความผันผวนอันจะส่งผลเสียต่อผู้ขอสินเชื่อ โดยเริ่มวงเงินตั้งแต่ 10,000 - 1,000,000 บาท ซึ่งจะพิจารณาวงเงินการออกสินเชื่อในสัดส่วน 50% จากมูลค่าเหรียญคริปโตที่เอามาค้ำประกัน กล่าวคือ หากฝากหลักประกันเป็น BTC ที่มีมูลค่า 20,000 บาท ไว้กับ XSPRING ก็จะได้รับวงเงินอยู่ที่ 10,000 บาท หรือหากฝากเป็นเหรียญ ETH ที่มูลค่าอยู่ที่ 2,000,000 บาท ก็จะได้รับวงเงินที่สามารถใช้บัตรเคทีซี-เอ็กซ์สปริง กดเป็นเงินสดออกมาได้ อยู่ที่ 1,000,000 บาทนั่นเอง
 
แต่เนื่องจากเหรียญคริปโต ยังเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง นางสาววรางคณา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกลไกในการออกสินเชื่อว่า หากสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดรับเป็นหลักประกันมีมูลค่า Sideway อยู่ในกรอบ 100% - 80% ก็จะยังไม่มีผลกระทบกับวงเงินที่ให้แต่อย่างใด แต่ถ้าเกิดมูลค่าลดลงมากกว่านี้จะมีการติดต่อไปยังลูกค้า ซึ่งจะให้ทางเลือก คือ ยอมให้สินทรัพย์ที่เอามาฝากโดน Liquidate (การล้างพอร์ตหรือบังคับขาย) ไปบางส่วน หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือให้ลูกค้าโอนสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเข้ามาเป็นหลักประกันเพิ่มเติม เพื่อความ Balance ของสินเชื่อของลูกค้า ส่วนในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย จะมีการเก็บดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี

นอกจากนี้ในอนาคต ยังมีแผนที่จะเพิ่มโทเคน เข้ามาเป็นอีกสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง ที่ให้ลูกค้ามีทางเลือกในการเอามาเทิร์นเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ โดย XSPRING เองที่ให้บริการด้าน Digital Financial Service ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็ยังเป็นถึง ICO Portal หรือ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล และเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเสนอขายโทเคนดิจิทัลแก่ประชาชน ในตอนนี้ได้เป็นผู้ดูแลให้กับหลายๆ บริษัทในการออกโทเคน และคาดว่าปลายปีนี้จะมี 1 โทเคน ที่จะได้เปิดตัวทำ ICO โดย ณ ขณะนี้ กำลังอยู่ภายใต้การพิจารณาอนุมัติจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ ซึ่งจะเป็นอีกสินทรัพย์ดิจิทัลหนึ่งที่ทาง XSPRING นั้นวางแผนรองรับเป็นหลักประกันในอนาคต และก่อนที่จะมีโทเคนอื่นๆ ทยอยตามออกมาหากได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.
 
 

 
 
ด้าน นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ XSpring ในครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของวงการสินเชื่อ-การเงินดิจิทัล ที่จะเป็นโอกาสให้เคทีซีได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ด้วยการนำเสนอ บัตรกดเงินสด "เคทีซี-เอ็กซ์สปริง" (KTC - XSPRING) ซึ่งเป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเบิกใช้วงเงิน และชำระคืนได้ตามความประสงค์ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยให้สมาชิกได้ใช้ชีวิตเต็มที่แบบไม่มีสะดุด กับบัตรกดเงินสดดีไซน์แนวตั้งแบบโมเดิร์นรับกับยุคดิจิทัล พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่มาครบ ทั้งรูด-โอน-กด และเหนือกว่าด้วยจุดแข็งของมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่กระจายอยู่กว่า 80 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก ทำให้สมาชิกสามารถใช้ บัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) ได้สะดวกขึ้น และเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย ไร้สัมผัส สมาชิกบัตรฯ สามารถช้อปออนไลน์ได้ทุกร้านค้า ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งสามารถโอนเงินเรียลไทม์ผ่านแอปฯ "KTC Mobile" เข้าบัญชีธนาคารได้ถึง 15 ธนาคาร และกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าธรรมเนียมอีกด้วย โดยเคทีซีคาดหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกสินเชื่อรายใหม่ และสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรายย่อย รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อบุคคลที่สูงขึ้นได้

เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์พลิกวงการสินเชื่อไทย ที่ XSPRING และ เคทีซี จับมือกันออกสินเชื่อโดยนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นหลักประกันครั้งแรกของประเทศไทย และสามารถเทิร์นเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ได้ทันที ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับนักลงทุนในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความหนักหน่วงเช่นนี้ ถือเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์อยู่ในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถดันพอร์ตสินเชื่อรายย่อยโตขึ้น และกวาดส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
 

LastUpdate 13/08/2565 18:49:11 โดย :
10-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 10, 2024, 5:51 pm