เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ "ปัจจัยหนุนเงินเฟ้อสหรัฐชะลอ แต่ยังต้องระวังแรงขายทำกำไร"


 
คาด SET แม้ในระยะสั้นจะซิกแซกปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1630 และ 1643 จุด ตามลำดับ จากปัจจัยหนุนเงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอตัวอย่างไรก็ตาม ยังให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรหลังดัชนีขึ้นมาต่อเนื่อง และสัญญาณเทคนิคที่ร้อนแรง ทำให้มีโอกาสพักตัว ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1606 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1593 จุด
 
ประเด็นสำคัญ 
 
ผลสำรวจผู้บริโภคสหรัฐลดคาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีข้างหน้าเหลือ 5% ต่ำสุดรอบ 6 เดือน ขณะที่ นลท. จับตาการประชุมที่แจ๊คสัน โฮล 25-27 ส.ค. นี้ คาดปธ.Fed จะส่งสัญญาณทิศทางด.บ.
 
• แม่น้ำไรน์ในเยอรมนีตื้นเขิน เรือขนส่งสินค้าต้องลดน้ำหนักบรรทุกกระทบ รฟฟ. ถ่านหิน 2 แห่งของเยอรมนี รวมถึงสวิสฯ ด้วย
 
• จับตา Cyber War สร้างความเสียหายระบบศก.-โครงสร้างพื้นฐาน จากการโจมตีกลุ่มแฮกเกอร์นิรนามกับรัฐบาลรัสเซีย
 
• สอท.กังวลขึ้นด.บ.กระทบอุตฯ ก่อสร้าง อสังหาฯ ผลิตไฟฟ้า-พลังงาน หมุนเวียน ปิโตรฯ แนะภาครัฐช่วยเหลือลูกหนี้ SME
 
• กสทช.เลื่อนตัดสินดีลควบรวม TRUE-DTAC ไปอีก 30 วัน ขณะที่ กมธ.เสนอรายงานไปยังนายกฯ คัดค้านดีลควบรวม อาจมีความเสี่ยง มีอำนาจเหนือตลาด ค่าบริการอาจพุ่งสูง 200%
 
• วันนี้สภาพัฒน์รายงาน GDP 2Q65 คาด +2.1%YoY ด้านนายกฯ ประชุม คกก. EEC ความคืบหน้าโครงการลงทุน
 
กลยุทธ์การลงทุน 
 
ระดับความเสี่ยงด้าน Market Risk เริ่มลดลง หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีสัญญาณชะลอตัวซึ่งคาดจะช่วยให้เฟดไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0.75% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และถือเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ด้วยปัจจัยความเสี่ยงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ และเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป ยังคงต้องระมัดระวังต่อไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
 
ล็อคเป้าลงทุน
 
Weekly Portfolio : แม้ตลาดมี Market Risk เริ่มลดลงจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
แต่ยังต้องระมัดระวังการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจ จึงเน้นเลือกกลุ่มลงทุนในสินทรัพย์
ที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
 
1) หุ้น Big Cap. ที่คาดได้อานิสงส์จาก Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลเข้า และ Valuation ยังไม่แพง เลือก KBANK BDMS
 
2) หุ้นได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตดีทั้ง YoY
และ QoQ เลือก ERW MINT CRC AOT
 
3) หุ้นที่ผลการดำเนินงาน 2H65 ยังมีแนวโน้มโตดี และมีการจ่ายเงินปันผล
ระหว่างกาลในช่วง ส.ค.-ก.ย. เลือก PTT BCP LH SPALI ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
 
1) หุ้นที่คาดได้รับ Sentiment ลบจากการปรับลดเป้าส่งออกรถยนต์จากปัญหาขาดแคลนชิป อาทิ NYT SAT AH STANLY
 
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA, KCE หลังราคาหุ้นปรับขึ้นแรงแล้ว อีกทั้งล่าสุด guidance ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำของโลกไม่สดใสและเริ่มเห็นสัญญาณ
คำสั่งซื้อชะลอตัว
 
Daily Focus
 
AMATA 2Q65 กำไรสุทธิ 649 ลบ. เติบโต 162%YoY และ 17%QoQ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้และรับรู้กำไรจากขายโรงงานในเวียดนามขณะที่ 2H65 คาดการเปิดประเทศเต็มรูปแบบและการกลับมาเริ่มขยายการลงทุนจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายและยอดโอนที่ดินปีนี้
 
OR 2Q65 กำไรสุทธิ 6.5 พันลบ. โต 104%YoY และ 71%QoQ หนุนจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของธุรกิจน้ำมันและรับรู้ก าไรจาก Fx กำไรสุทธิ 1H65 คิดเป็น 95% ของประมาณการทั้งปีของ Consensus เราคาดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอย่างมาก เป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น
 
 

LastUpdate 15/08/2565 11:02:38 โดย : Admin
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 2:57 am