คาด SET กรอบบนจำกัดบริเวณจุดสูงเดิม 1650 จุด และในภาพรวมมี downside เนื่องจากเผชิญปัจจัยลบ 1) ธนาคารกลางต่างๆ ยังเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ 2) เม็ดเงิน QT ที่เพิ่มเป็นถึง 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในก.ย. ทำให้สภาพคล่องหาย และ 3) ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นลบต่อ fund flow ด้านแนวรับอยู่ที่ 1630 และ 1620 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
ปธ.Fed คลีฟแลนด์ หนุนขึ้น ด.บ.เหนือ 4% ภายในต้นปี 66 ขณะที่ FedWatch Tool เพิ่มความน่าจะเป็นที่จะขึ้น 0.75% ใน ก.ย.สูงถึง 70.5%
เงินเฟ้อยูโรโซน ส.ค.พุ่งขึ้น 9.1% ทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่ตลาดคาดว่า ECB จะขึ้น ด.บ. 0.75% ในการประชุม 8 ก.ย.นี้
อินโดนีเซียขยายเวลาไม่เก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มถึง 31 ต.ค.กระตุ้นส่งออก-ลดอุปทานส่วนเกินในป.ท. คาดยังเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันปาล์มโลก
ดัชนี MPI ก.ค. ขยายตัว 6.37% หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุม คาดครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม
ธปท.ระบุเศรษฐกิจ ก.ค.ฟื้นตัวชะลอลง ติดตามปัจจัยเสี่ยงด้านต้นทุน ค่าจ้าง ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น, อุปสงค์ในป.ท.ชะลอตัว และการระบาดโควิด-19 ด้าน ก.คลังคาดเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด 3Q65 ทั้งปีอยู่ที่ 6% คาด GDP ปีนี้ขยายตัว 3-3.5%
กลุ่มซีพียื่นข้อเสนอแบบไม่ผูกมัดเพื่อซื้อธุรกิจ Metro AG อินเดีย วงเงิน 1 พันล้านเหรียญ ขณะที่ Reliance Retail ยื่นข้อเสนอราว 0.7 พันล้านเหรียญ
ก.คลังเตรียมหารือ ก.พลังงาน ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุด 20 ก.ย.นี้ ออกไปอีก 2-3 เดือน ด้านกบน.ตรึงราคาขายดีเซล 35 บ./ลิตรต่อเนื่อง
คณะ กมธ.ฯ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง แล้วเสร็จ เตรียมเสนอเข้าสภาฯ พิจารณาวาระ 2-3 วันที่ 14 ก.ย.นี้
คณะอนุกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเห็นชอบหลักการเก็บภาษีที่ดิน กทม. ตามโซนไม่เกิน 0.15% เตรียมเสนอ คกก.ชุดใหญ่พิจารณาใน ก.ย.นี้
กลยุทธ์การลงทุน
ความเสี่ยงเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น หลังประธานเฟดยังมีท่าทีหนักแน่นต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อไปเพื่อลดเงินเฟ้อ คาดจะแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ช่วงสั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำเลือกกลุ่มลงทุนอย่างระมัดระวัง
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ความเสี่ยงเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น คาดจะกดดันบรรยากาศลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมทั้ง SET Index ให้ผันผวนสูง จึงแนะนำเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. ที่คาดได้อานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้า และ Valuation ยังไม่แพง เลือก BBL PTT IVL AOT
2) หุ้นที่คาด 3Q65 กำไรเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก CPALL SCGP CENTEL
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแอปเปิลเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่เปิดตัว iPhone 14 ในวันที่ 7 ก.ย. เลือก COM7 CPW SYNEX ซึ่งเน้นเก็งกำไรเล่นรอบสั้นๆ ก่อนวันเปิดตัวสินค้าใหม่
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้ Sentiment ลบจากการปรับตัวลงต่อเนื่องของดัชนี BDI อาทิ กลุ่มเดินเรือเทกอง หลังล่าสุด BDI Index อยู่ที่ 965 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่ 12 มิ.ย. 63
2) หุ้นที่คาดอาจได้รับผลกระทบลบจากสุญญากาศทางการเมืองที่อาจทำให้การประมูลงานล่าช้าออกไป อาทิ กลุ่มรับเหมา กลุ่มขนส่งทางรางและโรงไฟฟ้า
3) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลน Supply chain อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มยานยนต์
Daily Focus
GULF ได้อานิสงส์ราคาก๊าซปรับลงและการขึ้นค่า Ft งวดใหม่ คาดกำไร 2H65 ดีขึ้น หนุนจาก GSRC หน่วยผลิตไฟฟ้าหน่วยสุดท้ายเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ปลาย ต.ค. 65 โรงไฟฟ้าในโอมาน (Duqm SEZ) เดินเครื่องกำลังผลิตเพิ่มในปีนี้ และส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH หนุนกำไรต่อเนื่อง
AOT คาด 4QFY65 ขาดทุนปกติลดลง YoY และ QoQ คาดพลิกมีกำไรปกติที่ 1.38 หมื่นลบ.ใน FY2566 ขณะที่ ครม.อนุมัติให้บริหารท่าอากาศยานอุดรธานี, บุรีรัมย์, กระบี่ คาดไม่มีนัยต่อผลประกอบการ แต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งสนามบินในป.ท.พร้อมบริหารจัดการปริมาณจราจรที่ดีขึ้น
ข่าวเด่น