เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ "ยังกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ย กดดันตลาด"


คาด SET การฟื้นตัวยังจำกัดบริเวณแนวต้าน 1640 จุด และความกังวลภาพการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังกดดันตลาด รวมถึงกังวลเศรษฐกิจจีน และห่วงโซ่อุปทาน หลังมีการ lockdown เพื่อคุมการระบาดของโควิด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1627 และ 1618 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่าจะกลับมาเป็นสัญญาณลบ

ประเด็นสำคัญ

รัสเซียยืนยันระงับส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ให้ยุโรปจนกว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ขณะที่เยอรมนีกลับมาใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แก้ปัญหาขาดแคลนพลังงาน

บริษัทสหรัฐเร่งออกตราสารหนี้มากที่สุดในรอบ 12 เดือน หนุน bond yield ปรับขึ้น นอกจากนี้ยังคงคาดว่า Fed จะขึ้นด.บ. 0.75% ในการประชุม 20-21 ก.ย. นี้

เงินเยนเทียบดอลลาร์อ่อนค่าสุดตั้งแต่ปี 2533 ส่วนหยวนอ่อนค่าตั้งแต่ ก.ค.2563 ขณะที่ปอนด์แข็งค่าตั้งแต่ มี.ค.2563 ขานรับนายกฯ คนใหม่

สรท.ยังคงเป้าการส่งออกรวมปี 65 ที่ 6-8% ตามเดิม ประเมินปัจจัยลบยังมีมาก คาดกลุ่มอาหารเป็นเรือธง จับตาการขาดแคลนชิปจะเป็นตัวพลิกผันการส่งออกไทย

วันนี้ติดตามศาลปกครองแถลงปิดคดีหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วง แบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ ระหว่าง BTS กับ กทม.

วันนี้บอร์ด กสทช. ประชุมพิจารณาดีลควบรวม TRUE-DTAC โดยหากเห็นชอบก็จะกำหนดมาตรการออกมา แต่ถ้าเห็นไม่ตรงกันอาจกำหนดมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม

ครม.เห็นชอบเงินกู้ กฟผ.วงเงินไม่เกิน 8.5 หมื่นลบ.เพื่อบริหารภาระค่า Ft ขณะที่มาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านพลังงานคาดเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

ก.แรงงานเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำสัปดาห์หน้า คาดมีผลทัน 1 ต.ค. 

กลยุทธ์การลงทุน 

ตลาดการเงินกังวลว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องเพื่อคุมเงินเฟ้อ อีกทั้งจีนยังใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อคุมการแพร่ระบาดของโควิดเป็นระยะ และยุโรปมีปัญหาขาดแคลนก๊าซที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยมีมากขึ้น ซึ่งคาดจะกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ช่วงสั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงเพิ่มความระมัดระวัง โดยเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีเป็นหลัก

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีมากขึ้น คาดกดดัน SET Index ให้ผันผวนสูง จึงแนะนำเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
 
1) หุ้น Defensive ที่ผลประกอบการอิงเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศ เลือก BJC HMPRO ZEN HTC ADVANC
 
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บาทอ่อน รวมทั้งได้ประโยชน์กลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีกำลังซื้อและเศรษฐกิจเติบโตดี เลือก CPF GFPT BDMS
 
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
 
1) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปัญหา Supply chain หลังจีนกลับมา ล็อกดาวน์เมืองเฉิงตูและเซินเจิ้นอีกครั้งซึ่งเป็นฐานการผลิตกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ซึ่งมีโอกาสส่งผลกระทบเชิงลบต่อคำสั่งซื้อและการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตในไทย  
 
2) หุ้นท่องเที่ยวหลังมองราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงแล้ว ขณะที่ล่าสุดอาจได้รับ sentiment ลบจากจีนกลับมาล็อกดาวน์เมืองใหญ่อีกครั้ง

Daily Focus

BJC 3Q65 คาดกำไรโต YoY หนุนจากยอดขาย และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมา แต่จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่า 20% จากระดับก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งมองยังไม่สะท้อนกำไรที่ฟื้นตัว

AMATA 2H65 คาดยอดขายและยอดโอนที่ดินดีกว่า 1H65 จากเข้าสู่ High Season จากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบและการขยายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (EV Hub), โลจิสติกส์, Data Center อีกทั้งคาดจะรับรู้รายได้สาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่มีมากขึ้น
 


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ก.ย. 2565 เวลา : 10:28:07
29-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 29, 2024, 10:07 am