สุขภาพ
Scoop : Plant-Based Food เนื้อจากพืช เทรนด์ธุรกิจอาหารที่น่าสนใจแห่งอนาคต


อาหาร Plant-Based เป็นวัตถุดิบหรือเมนูอาหารที่ทำมาจากพืชเป็นหลัก โดยคอนเซ็ปท์ของอาหารประเภทนี้คือการตั้งใจที่จะลดการบริโภคเนื้อสัตว์ให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับ Animal Activist เข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนการกินแบบ Vegan หรือเรื่องของศาสนาและความเชื่ออย่างการกินเจที่เราคุ้นเคยกันในประเทศไทย 


ในช่วงประมาณ 10-15 ปีที่ผ่านมา ประเทศในแถบยุโรปเริ่มหันมาลดการกินเนื้อสัตว์ลง ทำให้อาหาร Plant-Based เป็นที่สนใจที่ประเทศฝั่งนี้ และเริ่มได้รับความนิยมไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่เสมือนเป็น Shortcut ให้คนส่วนใหญ่ต่างหันมาดูแลรักษาสุขภาพตัวเองแบบจริงจังกันมากขึ้น อาหารที่ทำจากพืชดังกล่าวจึงยิ่งได้รับการตอบรับที่ดี จนเราเริ่มเห็นหลากหลายแบรนด์ลงมาจับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Plant-Based ทยอยกันออกผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพ 

ตามคอนเซ็ปท์ของอาหาร Plant-Based ไม่ใช่การกินแบบต้องงดเนื้อสัตว์ไปเลยเหมือนกับการกิน Vegan แต่เป็นเพียงการ “ลด” (หรือเลือกที่จะ “งด” ก็ได้) ปริมาณการกินเนื้อสัตว์แล้วหันมากินโปรตีนจากพืชแทนนั้น เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ เพราะการได้รับเนื้อสัตว์มากเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันอิ่มตัว และเกิดเป็นโรคร้ายต่างๆ ตามมา การกินพืชผักที่มากขึ้นจะทำให้ร่างกายเราปรับสมดุลไปในทางที่ดีกว่า อย่างระบบเผาผลาญดีขึ้นจากการเพิ่มการกินกากใยอาหาร ระดับคอเลสเตอรอลลดลงเพราะได้รับไขมันที่ดีจากพืชแทนไขมันสัตว์ หรือค่า BMI ที่ลดลง และอีกเหตุผลที่สำคัญก็คือการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะกระบวนการปศุสัตว์ ที่กว่าจะได้เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ออกมาวางขายนั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าผลิตภัณฑ์มาจากพืช ซึ่งการกินอาหารแบบ Plant-Based นี้ ก็เป็น 1 ในกระแสรักษ์โลก ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญไปจนถึงภาครัฐ ที่ต่างออกมาตรการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมต่างๆ และภาคเอกชนที่ต่างยึดกระบวนการทำธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อย่างที่เราเห็นแนวคิดแบบ ESG (Environment, Social and Governance) การดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนที่ไม่ว่าจะบริษัทส่วนใหญ่ต่างยึดถือเป็นภารกิจหลัก จึงไม่แปลกที่อาหาร Plant-Based จะเป็นตลาดอาหารที่น่าสนใจที่บริษัทใหญ่ๆเริ่มที่ปูเส้นทางธุรกิจนี้กันไว้แล้ว

 
รูปจาก https://www.cpfworldwide.com/

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF บริษัทผู้ผลิตสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ทั้งสัตว์บก และสัตว์น้ำ ครอบคลุมตั้งแต่ Feed ธุรกิจอาหารสัตว์ – Farm ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ – Food ธุรกิจอาหาร และร้านอาหาร”รายยักษ์ของไทย จากที่ปกติผลิตแต่อาหารที่มาจากเนื้อสัตว์เป็นหลัก ก็ได้ปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ออกไลน์ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Plant-Based Meat หรือเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืช ภายใต้แนวคิด “อาหารเพื่อวันพรุ่งนี้ (Food for Tomorrow) หนึ่งในนั้นคือ นวัตกรรมเนื้อจากพืช (PLANT-TEC Innovation) คือ การทำให้ ‘พืช..อร่อยแบบเนื้อสัตว์’ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟ ได้คิดค้นเทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์ ซึ่งใช้เวลามากกว่า 2 ปี ทำให้เป็นที่มาของเอกสิทธิ์นวัตกรรม ‘PLANT-TEC หรือ เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์’ ของ MEAT ZERO นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ร่วมมือกับบริษัทด้าน Plant-based ระดับโลกอย่าง Fuji Oil จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดย CPF ตั้งเป้าจะทำตลาดทั้งในไทย และกว่า 100 ประเทศทั่วโลกทั้งเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และวางแผนจะครองตลาดเนื้อทางเลือกอันดับ 1 ของเอเชีย และขึ้นแท่นเป็น Top 3 ผู้นำเนื้อทางเลือกของโลกได้ภายในเวลา 3 – 5 ปี
 

 
รูปจาก https://www.sansiri.com

ส่วนทางด้านของร้านอาหาร Plant-Based ในไทย ก็มีรายใหญ่กระโดดเข้ามาเล่นเช่นกัน โดย “NRPT” (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd ) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้นำนวัตกรรมด้านอาหารในประเทศไทย จับมือ “แสนสิริ” ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ เปิดตัวร้าน “alt. Eatery” คอมมูนิตี้อาหาร Plant-Based ใจกลางเมืองแห่งแรกของกรุงเทพฯ ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมด้วยอาหาร Plant-based นานาชนิดคัดสรรจากผู้ประกอบการไทย โดยต้องการจะส่งเสริมธุรกิจอาหารโปรตีนจากพืช ผ่านการให้ร้าน alt.Eatery เป็นศูนย์กลางของอาหารแห่งอนาคต ให้คนไทยได้มีทางเลือกในการบริโภคอาหาร และช่วยลดการเกิดโรค ซึ่งโครงการ “alt. Eatery” เป็นการเน้นย้ำเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจ Life Science หรือวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต ของอินโนบิก (เอเซีย) ด้วยการนำการวิจัยและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้พัฒนาผลผลิตทางการเกษตรของไทยเพื่อเป็นวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เพิ่มโอกาสและช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโตและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต

แม้ตลาดอาหาร Plant-Based ในไทยและในภูมิภาคเอเชียจะยังเล็กกว่าตลาดของทางฝั่งสหรัฐและยุโรป แต่ทางศูนย์วิจัย Krungthai Compass ธนาคารกรุงไทย คาดว่าในปี 2024 มูลค่าตลาดอาหาร Plant-Based จะเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 ล้านบาท (จากปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณกว่า 28,000 ล้านบาท)  หรือเติบโตโดยเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่ตลาดโลก KKP Research รายงานว่าปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเกือบเท่าตัวภายในเวลา 5 ปีจากนี้ไปอยู่ที่กว่า 68,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025 

เราจะเห็นว่าตอนนี้ถนนทุกสายต่างมุ่งมาที่การดูแลรักษาสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการอยู่อย่างยั่งยืนเป็นสำคัญในทุกๆภาคส่วน ทั้งปัจจัยของการเกิดโรคไวรัสระบาดโควิด-19ที่เป็นตัวกระตุ้นใหญ่มาแล้ว การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือเรื่องสำคัญอย่างประเด็นปัญหา Climate Change ที่เป็นวาระสำคัญของโลก ทำให้อาหาร Plant-Based หรือโปรตีนที่มาจากพืช (ที่เราเริ่มเห็น Movement จากรายใหญ่ๆ) มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นโอกาสทองในการทำธุรกิจอาหารในอนาคตที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว
 

LastUpdate 07/09/2565 18:25:21 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 1:50 am