คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1658-1675 จุด โดยคาดตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐประจำเดือนส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ ด้านกรอบล่างอยู่แนวรับถัดไปอยู่ที่ 1650 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นลบ และยังมีมุมมองแบบระมัดระวังต่อแรงขายทำกำไร จากดัชนีที่ขึ้นมาร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญ
• วันนี้สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อ ส.ค. คาด 8.1%yoy จาก 8.5%yoy ใน ก.ค.ขณะที่ Fed นิวยอร์กระบุผลสำรวจผู้บริโภคลดคาดการณ์เงินเฟ้อช่วง 1-3 ปีข้างหน้าลง
• สหรัฐเตรียมจำกัดการส่งออกชิปที่นำไปใช้ด้าน AI และเครื่องมือผลิตชิปไปยังจีนเพิ่มเติมอีก 3 บริษัท ต่อจาก NVIDIA และ AMD
• ประชุม ครม.วันนี้ คาดพิจารณาหลายประเด็นส าคัญ เช่น ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมีผล 1 ต.ค.,ขยายเวลาลดภาษีฯ ดีเซล 5 บ./ลิตร ถึง 30 พ.ย.,ออกมาตรการช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบาง ส่วนก.พาณิชย์เสนอประกันรายได้ปาล์ม-มันสำปะหลังปี 4
• วันนี้ประชุมอนุ กก.ส่งเสริม EV คาดออกมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตแบตเตอรี่ รวมกว่า 1 GW ให้วงเงินช่วยเหลือสูงสุด 600 ลบ.
• ททท. กังวลสถานการณ์น้ำท่วมกระทบการท่องเที่ยวกลุ่มอบรม-สัมมนาใน 3Q65 คาดไปกระจุกตัวใน 4Q65 ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มนี้ 6.56 แสนลบ.
• BOI คาดคำขอลงทุนโดยรวมจะลดลง 22% สู่ 5 แสนลบ.ในปีนี้ โดย 1H65 ยอดคำขอรับการส่งเสริมลงทุนอยู่ที่ราว 2 แสนลบ. ลดลงเล็กน้อย YoY
• iPhone 14 series ได้รับความสนใจอย่างมากในจีน จนทำให้เว็บไซต์ของแอปเปิลล่ม เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองตลาดจะยังคงให้น้ำหนักกับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีมากขึ้น หลังเฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องเพื่อคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญกับเงินเฟ้อสูงและวิกฤตพลังงาน อีกทั้งจีนยังใช้นโยบาย Zero Covid ทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองใหญ่เป็นระยะๆ ซึ่งย่อมกระทบต่อการลงทุนในระยะถัดไป ทำให้มองดัชนีมี Upside จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีคุณภาพดีมีปัจจัยบวกเฉพาะเป็นหลัก
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : แม้มองตลาดรับรู้ความเสี่ยงไปพอสมควรแล้ว ทำให้มีโอกาสน้อยที่ Downside จะลงลึก แต่ช่วงสั้นคาดดัชนีหุ้นไทยยังมี Upside จำกัดเช่นกัน จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Defensive ที่ผลประกอบการอิงเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศ เลือก ZEN HTC ADVANC
2) หุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเป็นความเสี่ยงตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นใน ก.ย.-ต.ค. เลือก HMPRO GLOBAL CPALL BJC TASCO ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปัญหา Supply chain หลังจีนยังคงดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เมืองใหญ่เป็นระยะ โดยเฉพาะที่เป็นฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์อย่าง เฉิงตู เซินเจิ้น กุ้ยหยาง ซึ่งมีโอกาสกดดันคำสั่งซื้อและการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตในไทย
2) หุ้นท่องเที่ยวหลังมองราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงแล้ว ขณะที่ล่าสุดอาจได้รับ sentiment ลบจากจีนกลับมาล็อกดาวน์และยุโรปเผชิญปัญหาค่าครองชีพพุ่ง
Daily Focus
CPALL โมเมนตัมกำไรยังดีคาดได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่ 3Q65 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น YoY หนุนจากธุรกิจ CVS และส่วนแบ่งกำไรจาก MAKRO ที่ดีขึ้นจากฐานต่ำของปีก่อนสืบเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ และ synergy จาก MAKRO กับ Lotus’s และเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
COM7 2H65 คาดยอดขายเพิ่มขึ้น ได้อานิสงส์การเปิดตัว iPhone 14 ซึ่งมีการประมวลผลที่ดีขึ้นและมีฟีเจอร์ใหม่ Emergency SOS แต่ราคาสหรัฐไม่ปรับขึ้น (ราคาไทยเพิ่มขึ้นจากบาทอ่อน) คาดมีกระแสตอบรับอย่างคึกคักนอกจากนี้ Apple ขยับไทยสู่ประเทศ Tier-1 เริ่มจำหน่ายได้ 16 ก.ย.นี้
ข่าวเด่น