คาด SET เคลื่อนไหวระหว่างกรอบ โดยมีกรอบล่างที่ 1620-1626 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1640-1646 จุด หลังในช่วงนี้ ไม่มีปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีนัก และรอประเด็นสำคัญสำหรับการประชุมเฟด ซึ่งจะมีผลการประชุม และถ้อยแถลงในช่วงดึกคืนวันพรุ่งนี้
ประเด็นสำคัญ
• ปธน.ไบเดนย้ำจะส่งทหารไปช่วยปกป้องไต้หวันหากถูกจีนโจมตี ขณะที่ทางจีนประณามว่าเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อนโยบายอธิปไตยเหนือไต้หวัน
• Bond Yield สหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.9% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี
• ผู้ผลิตเหล็กเส้นเตรียมปรับราคาสินค้าขึ้นหลังราคาวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงพุ่ง คาดกระทบผู้รับเหมาก่อสร้างที่ไม่ได้ทำสัญญาล่วงหน้า
• ประชุม ครม. วันนี้คาดพิจารณาลดเงินสมทบประกันสังคมเหลือ 3% จาก 5% ทั้งฝ่ายนายจ้าง-ลูกจ้าง เป็นเวลา 3 เดือน (ต.ค. – ธ.ค. 65)
• กบน. ตรึงราคาขายปลีกดีเซลที่ 34.94 บาท/ลิตร แม้น้ำมันตลาดโลกลด พร้อมดึงเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่ม 2 บาท/ลิตร หลังติดลบ 1.2 แสนลบ.
• รมว.ท่องเที่ยว คาดรายได้ท่องเที่ยวปีนี้เหลือเพียง 1.08 แสนลบ. แม้จำนวน นทท. ต่างชาติตามเป้า 10 ล้านคน แต่ นทท.ไทยเหลือ 120 ล้านคน/ครั้ง
• รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ระบุแผน PDP2022 ลดพึ่งพลังงานต่างประเทศ เพิ่มพลังงานทดแทนไปที่ 50% โดย กบง.พิจารณา ต.ค.นี้ ประกาศใช้ต้นปีหน้า
• ภาวะด.บ.ขาขึ้นหนุนสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้น คาดผู้ซื้อเร่งรีไฟแนนซ์ก่อนต้นทุนเพิ่ม
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ โดยเชื่อว่าตลาดจะปรับตัวได้ดีขึ้นหลังการประชุมของเฟดในสัปดาห์นี้ หากการคาดการณ์เศรษฐกิจและ Dot plot ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ/หรือ หากรับความเสี่ยงได้อาจเก็งกำไรจากผลการประชุมของเฟดที่คาดจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ก.ย. นี้
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นยังมี Upside จำกัด เนื่องจากอยู่ระหว่างจับตาการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเป็นความเสี่ยงตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นใน ก.ย.-ต.ค. เลือก HMPRO GLOBAL CPALL BJC TASCO
2) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไรจากผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21 ก.ย. นี้ แบ่งเป็น
2.1) กรณีคาดเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง 100bps และ dot plot ปี 2566 คงที่หรือปรับเพิ่มขึ้น แนะนำ หุ้น Defensive เลือก ADVANC BDMS BLA
2.2) กรณีคาดเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด 75bps และ/หรือ dot plot ปี 2566 ปรับตัวลดลง แนะนำ หุ้น Cyclical เลือก KTB PTT KCE
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
2) หุ้นที่คาดได้ Sentiment ลบจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ อาทิ CPF GFPT ซึ่งปกติราคาหุ้นมักปรับตัวลงในช่วงดังกล่าว
Daily Focus
GPSC ช่วงสั้นคาดได้ sentiment บวกจากข่าวแผน PDP ฉบับใหม่และการส่งเสริมโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถอีวีทั้งด้านภาษีและเงินอุดหนุน ขณะที่ 3Q65 คาดกำไรจะยังรักษาโมเมนตัมขาขึ้น QoQ จากค่า Ft ที่สูงขึ้นและกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว
KBANK เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น อีกทั้งยังมีจุดเด่นด้าน Valuation ไม่แพง (PBV 0.65 เท่า และ PE 7.5 เท่า) และคาดการณ์ว่ากำไรจะฟื้นตัวได้ดี รวมทั้งยังเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง
ข่าวเด่น