คาด SET รีบาวด์ได้ หลัง BoE ประกาศเข้าซื้อพันธบัตรไม่จำกัดจำนวน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง และดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า ซึ่งจะทำให้บาทชะลอการอ่อนค่าด้วย ทำให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติลดน้อยลง ด้านกรอบล่างอยู่ที่ 1590-1595 จุด ที่คาดเป็นจุดรองรับได้ ส่วนกรอบบนอยู่ที่แนวต้าน1610-1616 จุด
ประเด็นสำคัญ
• กนง. มติเอกฉันท์ขึ้น ด.บ. 0.25% สู่ 1% มีผลทันที โดยประเมินการขยายตัว GDP ปี 2565 ขยายตัว 3.3% ส่วนปี 2566 ปรับลดคาดการณ์ลงจาก 4.2% สู่ 3.8% ขณะที่มองสถานการณ์เงินบาทอ่อนค่ายังไม่กระทบภาพ ศก. เงินเฟ้อ ทางด้าน BBL นำร่องปรับขึ้น ด.บ. และ ด.บ. เงินกู้ ขึ้น มีผลตั้งแต่วันนี้
• ก.คลังอังกฤษหนุน BoE รับซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวนเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน จนถึง 14 ต.ค. นี้
• สศอ. ระบุดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค. อยู่ที่ 99.28 ขยายตัว 14.52%YoY และมีอัตราใช้กำลังการผลิต 63.78% สูงสุดในรอบ 5 เดือน
•กบน. จะทบทวนราคาขายปลีกดีเซลในสัปดาห์หน้า หลังราคาตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง-เก็บเงินเข้ากองทุนได้มากขึ้น 3-4 บาท/ลิตร คาดส่วนลดปรับลงแบบขั้นบันได ขณะที่มาตรการอุดหนุน 50% ในส่วนที่สูงกว่า 35 บาท/ลิตร จะสิ้นสุดลง 30 ก.ย. นี้
• กบง. เห็นชอบปรับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจากเดิม B5 เกรดเดียวเป็น B7 B10 B20 มีผล 10 ต.ค.-31 ธ.ค. 65 ช่วยดีงราคาผลปาล์มขึ้น
• Apple ยกเลิกแผนการเพิ่มการผลิต iPhone 14 เนื่องจากความต้องการในตลาดต่ำกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
กลยุทธ์การลงทุน
แม้มองตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ โดยเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงจะสิ้นสุดลงแล้ว และเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัว แต่ช่วงสั้นคาดบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะยังถูกกดดันจากกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะยังมีความผันผวนสูงและ Upside จำกัด หลังมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกกดดัน จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น defensive ที่อิงเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก เลือก ADVANC BDMS BLA HMPRO
2) หุ้น domestic growth ใน 4Q65 ซึ่งกำไรมีโมเมนตัมเติบโตได้ดี เลือก AMATA AP CRC KTB
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
2) หุ้นที่มีฐานลูกค้า/ตลาดส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดได้รับกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มยาง
3) หุ้นเนื้อสัตว์ อาทิ CPF GFPT ซึ่งอาจถูกกดดันจากกังวลต้นทุนอาหารสัตว์จะทรงตัวสูงจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่กลับมายกระดับขึ้น และการเข้าสู่เทศกาลกินเจ
Daily Focus
HMPRO 3Q65 คาดกำไรเติบโตเร่งตัวขึ้น YoY จาก SSS ที่ดีขึ้น รายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากฐานต่ำใน 3Q64 ช่วงสั้นคาดได้อานิสงส์จากอุปสงค์ซื้อสินค้าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำท่วม ความเสี่ยง downside ต้นทุนมีจำกัด เพราะมีมาร์จิ้นสูงและหนี้ที่เป็น ด.บ.ลอยตัวต่ำกว่ารายอื่นในกลุ่มพาณิชย์
PTTEP คาดได้อานิสงส์ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นจากความเสี่ยงวิกฤติพลังงานในยุโรปที่ยังไม่คลี่คลาย คาดโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตในการประชุม 5 ต.ค. ขณะที่ 2H65 คาดได้รับประโยชน์จาก ASP ที่สูงขึ้นจากสถานะสัญญาประกันความเสี่ยงส่วนใหญ่มีการบันทึกมูลค่าตามราคาตลาดปัจจุบันแล้ว
ข่าวเด่น