เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ วิเคราะห์ "เคลื่อนไหวผันผวน ติดตามคำตัดสินคดีนายกฯ ครบ 8 ปี"


คาด SET เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีประเด็นสำคัญวันนี้ สำหรับคำตัดสินคดีนายกฯ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี หรือไม่ เป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวน โดยเฉพาะหากคำตัดสินออกมาให้พ้นจากตำแหน่ง ด้านกรอบการเคลื่อนไหวมีกรอบล่างอยู่ที่ 1579-1589 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1603-1613 จุด 

ประเด็นสำคัญ

• ธปท. ดูแลค่าเงินบาทใกล้ชิด พร้อมเข้าแทรกแซงหากผันผวนสูงและเร็วเกินไป แต่ไม่ได้มีเป้าหมายว่าต้องอยู่ระดับใดที่เหมาะสม เนื่องจากเงินบาทเคลื่อนไหวตามดอลลาร์เป็นหลัก ซึ่งทำอะไรไม่ได้และไม่ควรทำ
 
• วันนี้ติดตามคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในคดีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ฯ
 
• GDP 2Q65 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ของสหรัฐหดตัว 0.6%QoQ หลังจาก 1Q65 หดตัว 1.6%QoQ ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
 
• ปธน.ปูติน เตรียมลงนามในสนธิสัญญาผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันนี้ ขณะที่ ปธน.ยูเครนจัดประชุมด่วน ส่วนเลขาธิการสหประชาชาติประณามไม่ยอมรับ
 
• ปธน. สีจิ้นผิงเดินทางมาไทยเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก 2022 พ.ย.นี้ คาดจะคลายล็อกอนุญาตให้ชาวจีนเที่ยวไทยปลายปีนี้ ช่วยหนุนจำนวน นทท. ต่างชาติปีนี้เกินเป้า 10 ล้านคน เป็น 12 ล้านคน
 
• สวีเดนพบท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 จากรัสเซียรั่วเป็นจุดที่ 4 หลังพบจุดรั่วมาแล้ว 3 จุด ในน่านน้ำของเดนมาร์กและสวีเดน ท่ามกลางการสันนิษฐานว่าเป็นการก่อวินาศกรรม

กลยุทธ์การลงทุน
 
แม้มองตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ โดยเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงจะสิ้นสุดลงแล้ว และเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัว แต่ช่วงสั้นคาดบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะยังถูกกดดันจากกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

ล็อคเป้าลงทุน
 
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะยังมีความผันผวนสูงและ Upside จำกัด หลังมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกกดดัน จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
 
1) หุ้น defensive ที่อิงเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก เลือก ADVANC BDMS BLA HMPRO
 
2) หุ้น domestic growth ใน 4Q65 ซึ่งกำไรมีโมเมนตัมเติบโตได้ดี เลือก AMATA AP CRC KTB
 
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
 
1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
 
2) หุ้นที่มีฐานลูกค้า/ตลาดส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดได้รับกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มยาง
 
3) หุ้นเนื้อสัตว์ อาทิ CPF GFPT ซึ่งอาจถูกกดดันจากกังวลต้นทุนอาหารสัตว์จะทรงตัวสูงจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่กลับมายกระดับขึ้น และการเข้าสู่เทศกาลกินเจ

Daily Focus

TU ได้อานิสงส์บาทอ่อน คาดกำไรปกติ 3Q65 ที่ 2.1 พันลบ. +34%YoY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำใน 3Q64 ส่วน 4Q65 คาดกำไรปกติโต YoY จากธุรกิจอาหารทะเลหนุน อีกทั้งมีแผนปลดล็อกมูลค่าแฝงนำ บ.ย่อย I-tail เข้า SET ปีนี้ และนำ Red Lobster เข้าตลาดนิวยอร์ก 3-4 ปีข้างหน้า

GULF หุ้น Defensive ต้านความเสี่ยงภายนอกและการชะลอตัวของศก.ได้ ปีนี้คาดกำไรโตแกร่ง 68%YoY จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ทั้งยังมี Upside Risk จากแผน PDP ฉบับใหม่ และโอกาสใหม่ในธุรกิจดิจิทัล คาดเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นให้สามารถชนะตลาดได้
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ก.ย. 2565 เวลา : 13:11:21
02-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 5:03 pm