หุ้นทอง
"เซ็น กรุ๊ป" เผยผลประกอบการ Q3/65 และงวด 9 เดือนแรกปี 2565 รายได้รวมพุ่ง 154% มั่นใจธุรกิจอาหารเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเร่งกำลังขยายสาขาและรุกเปิดแฟรนไชส์


บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และงวด 9 เดือนแรก ปี 2565 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 154% เติบโตทั้งจากธุรกิจร้านอาหาร การบริการจัดส่งอาหาร การขายวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ ธุรกิจอาหารค้าปลีก และการให้สิทธิแฟรนไชส์ โดยในทุกๆ ธุรกิจในเครือสามารถ ตอกย้ำศักยภาพของธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตฯ พร้อมทั้งเดินหน้าเร่งกำลังขยายสาขาร้านอาหาร และรุกเปิดแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายในส่วนของธุรกิจค้าปลีก เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างมั่นคง

 
คุณยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 154% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้ธุรกิจร้านอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น 266% เติบโตต่อเนื่องจากความพยายามของบริษัทในการปรับโมเดลธุรกิจ รวมถึงการออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าในการรับประทานอาหารที่ร้านให้มากขึ้น ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่บนทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้ธุรกิจกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อีกทั้งบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิของ ไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 54 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 60 ล้านบาท ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 หรือเพิ่มขึ้น 114 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจค้าปลีกของบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างมากถึง 184% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเข้าลงทุนในบริษัท คิง มารีน ฟู้ดส์ จำกัด เมื่อต้นปี 2565 และจากการที่บริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด ออกสินค้าใหม่ พร้อมทั้งการขายผ่านช่องทาง Modern Trade และช่องทางออนไลน์มากขึ้น”

คุณปรีด์ สุวิมลธีระบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวน 12 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 8 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 4 สาขา หากนับรวมในงวด 9 เดือนแรก ปี 2565 บริษัทเปิดร้านอาหารใหม่จำนวนทั้งหมด 27 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 16 สาขา และเป็นสาขาแฟรนไชส์ 11 สาขา

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทมีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 356 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 146 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 210 สาขา หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41:59

ในช่วงไตรมาส 3 ทางแบรนด์ ‘อากะ’ ครบรอบ 15 ปี ประกาศเดินหน้าขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมกับการตอกย้ำความเป็น No.1 Yakiniku Buffet ที่มีสาขามากที่สุดในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลอยุธยา, โรบินสันสมุทรปราการ, เซ็นทรัลอุบลราชธานี และเซ็นทรัลอุดรธานี ตั้งเป้าเปิดเพิ่มอีก 7 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งการกระโดดเข้าแข่งขันในตลาดชาบูกับการเปิด ‘อากะ ชาบู’ สาขาแรก ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 1 แบรนด์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมแกร่งพอร์ตฯ ธุรกิจกลุ่มร้านอาหารในเครือได้เป็นอย่างดี รวมถึงแบรนด์ ‘เซ็น เรสเตอร์รอง’ และแบรนด์ ‘ออน เดอะ เทเบิ้ล’ ที่เปิดสาขาใหม่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือ QSNCC เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่เข้ามาร่วมกิจกรรมที่ศูนย์ฯ ด้วย

ทางด้านธุรกิจร้านอาหารไทยในไตรมาส 3 แบรนด์ ‘ตำมั่ว’ รุกขยายสู่ตลาดภูมิภาคเอเชีย ด้วยการลงนามเซ็นสัญญาให้สิทธิเปิดสาขาแฟรนไชส์ที่ประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้ง ‘ลาวญวน’ ที่เปิดสาขาแฟรนไชส์ในประเทศอีก 2 สาขา คือ โรบินสันภูเก็ต และเซ็นทรัลอยุธยา รวมถึงแบรนด์ ‘เขียง’ ที่รุกเปิดแฟรนไชส์ไปถึง 5 สาขา ทั้งสาขากรุงเทพฯ และสาขาต่างจังหวัด ส่งผลให้รายได้ค่าสิทธิ์และค่าการตลาดที่ได้จากแฟรนไชส์ เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนสาขาแฟรนไชส์ที่เพิ่มขึ้น และค่าต่อสัญญาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ย. 2565 เวลา : 16:49:03
28-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 28, 2024, 7:36 pm