คาด SET ปรับขึ้นทดสอบจุดสูงเดิมบริเวณ 1640 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1647 จุด ปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงปธ. เฟด จะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือนธ.ค. และทิศทาง fund flow เริ่มไหลกลับเข้ามา ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1620-1630 จุด
ประเด็นสำคัญ
ถ้อยแถลงของ ปธ. Fed ระบุจะชะลอการเร่งขึ้น ด.บ. อย่างเร็วที่สุดในเดือน ธ.ค. แต่ก็เตือนว่าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้ออาจยาวนานกว่าที่คาด
GDP 3Q65 ของสหรัฐ (ประมาณการครั้งที่ 2) +2.9% สูงกว่าคาด และสูงกว่าครั้งแรกที่ 2.6% ขณะที่การจ้างงานภาคเอกชน พ.ย. ต่ำกว่าคาด
กนง. ปรับขึ้น ด.บ. นโยบาย 0.25% สู่ 1.25% และปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 3.2% จาก 3.3% และปีหน้า 3.7% จาก 3.8%
ดัชนี MPI ต.ค.65 หดตัว 3.71% ขณะที่ 10 เดือนโต 2.20% โดยปีนี้คาดเติบโต 2% ส่วนปีหน้าคาดขยายตัว 2.5-3.5%
ฟิตซ์ เรตติ้ง คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ
FETCO ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีขายหุ้น ด้าน IAA กังวลกระทบต่อสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะ นลท. ต่างชาติ
BTS ประกาศขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท-สีลม พร้อมส่วนต่อขยาย จาก 16-44 บาท เป็น 17-47 บาท เริ่ม 1 ม.ค. 66
มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 (1-12 ธ.ค. 65) คาดมียอดจองรถยนต์ 37,000 คัน รถจักรยานยนต์ 5,000 คัน มีเงินสะพัดในงาน 4-5 หมื่นลบ.
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงพักตัวและคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1600-1640 จุด หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศลงทุน ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เลือก CPALL CENTEL MINT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
IVL ช่วงสั้นคาดได้ Sentiment บวกจากความคาดหวังการเปิดประเทศจีนซึ่งจะช่วยหนุนอุปสงค์ธุรกิจเส้นใยปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ 4Q65 คาดกำไรจะฟื้นตัว QoQ เพราะไม่มีขาดทุนสินค้าคงเหลือจำนวนมากเกิดขึ้นอีก
GPSC ช่วงสั้นมองได้อานิสงส์จากบาทแข็งและ Yield ที่ปรับลง ขณะที่กำไรดำเนินงานใน 4Q65 คาดจะยังรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้ได้ และปี 66 แนวโน้มผลประกอบการจะเป็นบวกมากขึ้นแรงหนุนจากค่า Ft เฉลี่ยที่สูงขึ้น
ข่าวเด่น