การค้า-อุตสาหกรรม
'ไทย-ออสซี่' เร่งติดตามการดำเนินงาน TAFTA JC ชี้! FTA ช่วยการค้าสองฝ่ายโตถึง 186% พร้อมเดินหน้าร่วมมือด้านแรงงาน


กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA JC) ครั้งที่ 4 เร่งติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานด้านต่างๆ และความคืบหน้าแผนงานความร่วมมือ 8 สาขา อาทิ เกษตร ท่องเที่ยว เศรษฐกิจสีเขียว ตั้งเป้าสำเร็จ พ.ค.นี้ ชี้! FTA ที่มีมากว่า 19 ปี ช่วยการค้าสองฝ่ายโตถึง 186% พร้อมเสริมความต้องการด้านแรงงานร่วมกัน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA JC) ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพฯ ว่า ตนได้เป็นประธานร่วมกับนางจูเลียน่า นัม ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย เพื่อติดตามการดำเนินงานตามความตกลง FTA ไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2548 ถือเป็นเวลากว่า 19 ปี

 
นางอรมน กล่าวว่า ที่ประชุมได้ติดตามการดำเนินงานของคณะทำงานภายใต้ TAFTA JC อาทิ คณะทำงานด้านการเปิดตลาด คณะทำงานด้านกฎถิ่นกำเนิดสินค้า และคณะทำงานด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรฐานอาหาร โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อปรับโอนพิกัดศุลกากรของกฎถิ่นกำเนิดสินค้าจากระบบ HS2002 เป็น HS2022 ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ภายในกลางปีนี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการตรวจรับรองด้านสุขอนามัย เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งสินค้าเกษตรระหว่างกัน ซึ่งมีสินค้าเป็ดปรุงสุกไทยไปออสเตรเลีย และสินค้าอะโวคาโดสดออสเตรเลียมายังไทย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายสนใจจะกระชับความร่วมมือด้านแรงงาน เพื่อเสริมความต้องการแรงงานในด้านต่างๆ ผ่านการยอมรับมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขาที่สนใจ โดยไทยสนใจให้แรงงานไทยสามารถเข้าไปทำงานในออสเตรเลียมากขึ้น โดยเฉพาะสาขานวดแผนไทย พ่อครัวแม่ครัว ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เกษตรกรอัจฉริยะ ผู้มีทักษะด้านดิจิทัล สตาร์ทอัพ และการโรงแรม ส่วนออสเตรเลียสนใจเข้ามาทำงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับไทยในสาขา อาทิ ภูมิสถาปนิก (landscape architect) และผู้ตรวจสอบปริมาณงาน (quantity surveyors)

 
นางอรมน เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าการจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทย-ออสเตรเลีย (SECA) โดยเฉพาะการจัดทำแผนกิจกรรมเพื่อกระชับความร่วมมือ 8 สาขา ได้แก่ เกษตร ท่องเที่ยว สุขภาพ การศึกษา การลงทุน เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยตั้งเป้าให้เสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีการค้าทั้งสองฝ่ายได้ลงนามการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565

“FTA ฉบับนี้ ถือเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการไทยและออสเตรเลียอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลียเติบโตเพิ่มขึ้น ขยายตัวถึง 186% จากมูลค่า 6,427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2548 เป็นมูลค่า 18,389 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากการที่ออสเตรเลียและไทยได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกือบทุกรายการแล้ว” นางอรมน เสริม

 
ทั้งนี้ ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลีย มีมูลค่า 18,388.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 14.30% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 11,154.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีเครื่องประดับ และไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 7,234.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์

บันทึกโดย : วันที่ : 06 มี.ค. 2566 เวลา : 12:40:48
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 12:46 pm