การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
สทนช.เอ็มโอยูร่วมกับ 4 กระทรวง 7 หน่วยงาน ผนึกกำลังใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มขีดความสามารถจัดการน้ำ


 
สทนช. จับมือ 4 กระทรวง 7 หน่วยงาน ลงนามเอ็มโอยูร่วมกันบูรณาการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ภูมิสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ

 
วันนี้ (9 มีนาคม 2566) เวลา 09.00 น. ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ร่วมกับ ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายขจร เราประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายปกรณ์ อาภาพันธ์ุ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางสาวสุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายธเนศน์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา เป็นพยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวและรับฟังการบรรยายพิเศษจาก ศ.ดร.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในหัวข้อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในอนาคต และบรรยายพิเศษจาก ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในหัวข้อ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร

 
การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดขึ้นเพื่อพัฒนา ส่งเสริมและประยุกต์ใช้ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาและข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภูมิสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับบาทบาทและภารกิจของหน่วยงาน พร้อมทั้งร่วมมือกันในการพัฒนาบุคลากร เสริมสร้าง การแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศในด้านการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง และให้ประชนทั่วไปทุกพื้นที่ของประเทศสามารถเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ

 
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลัก ในการบูรณาการบริหารทรัพยากรน้ำ ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรภาคีกว่า 40 หน่วยงาน โดยให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับสภาพปัจจุบันและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแสวงหาความร่วมมือ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการบริหารทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบด้านน้ำที่อาจเกิดขึ้น

 
 
“การร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศร่วมกับอีก 4 กระทรวง 7 หน่วยงาน ในครั้งนี้ ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ภูมิสารสนเทศ ภาพถ่ายดาวเทียม งานวิจัย และข้อมูลทางวิชาการ เพื่อกำหนดนโยบายส่งเสริมการใช้ประโยชน์ และบริหารจัดการน้ำสำหรับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญ ซึ่งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจะประสบผลสำเร็จได้ ต้องอาศัยพลังความร่วมมือที่มีศักยภาพของทุกภาคส่วน และเชื่อมโยงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ
 

 
ผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำทั้ง 22 ลุ่มน้ำ เครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำ และประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายขยายผลการเสริมศักยภาพความเข้าใจและเข้าถึงข้อมูล และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ เครือข่ายที่มีความเข้มแข็งในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่อไป”เลขาธิการ สทนช.กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 มี.ค. 2566 เวลา : 17:00:01
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 12:42 am