การตลาด
ไปรษณีย์ไทยชูนวัตกรรมกล่องพัสดุช่วยโลก "ลดโลกร้อนได้ 40%" พร้อมเปิดจุดรับคืนผลิตภัณฑ์กระดาษหลากชนิด ในโครงการ reBOX #4 สู่ "กล่องรักที่สัมผัสได้" เพื่อผู้พิการ


 
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตอกย้ำนโยบายกรีนโลจิสติกส์ พร้อมผู้นำการใช้ประโยชน์จากกล่องพัสดุ ซอง และกระดาษ โชว์นวัตกรรมกล่องพัสดุที่ลดการปล่อยคาร์บอน ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และลดโลกร้อนได้ถึง 40% เทียบเท่าลดการตัดต้นไม้ไปกว่า 6,735 ต้น ซึ่งไปรษณีย์ไทยเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเชิญชวนสายรักษ์โลกเข้าร่วมโครงการ reBOX #4 ร่วมส่งคืนกล่อง/ ซองที่ผ่านการใช้งานแล้วและผลิตภัณฑ์กระดาษอื่นๆ อาทิ แกนกระดาษชำระ แบบม้วน แผงไข่กระดาษ หรือล็อตเตอรี่เก่า เพื่อรีไซเคิลเป็นของที่มีประโยชน์ต่อคนพิการ ภายใต้แนวคิด “กล่องรักที่สัมผัสได้” และยังสามารถสะสมแต้มผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้ง Post family ECOLIFE Application Green2Get Application เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายตลอดโครงการ ผู้ที่สนใจสามารถรวบรวมกล่อง/ ซองที่ไม่ใช้แล้ว ส่งที่ไปรษณีย์ไทยใกล้บ้านทั่วประเทศ รวมทั้งจุดรับรวบรวมอื่นๆ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2566

 
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนตามพันธกิจขององค์การสหประชาชาติ ในนโยบายด้านความยั่งยืน สู่การพิชิตเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ไปรษณีย์ไทย จึงตอกย้ำกลยุทธ์การจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดประสิทธิผลทั่วทั้งองค์กร โดยเฉพาะกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรหลักในธุรกิจขนส่ง ซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ไทยใช้บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษรักษ์โลกที่มีส่วนผสม ของเยื่อรีไซเคิล สามารถช่วยลดโลกร้อนได้ถึง 40% ถือเป็นหนึ่งในการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ที่ไปรษณีย์ไทยได้ริเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2563 อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นจำนวนที่ลดการตัดต้นไม้กว่า 6,735 ต้น

 
สำหรับบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเพื่อการขนส่งของไปรษณีย์ไทยผ่านกระบวนการผลิตในขั้นตอนพิเศษที่มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณการใช้เยื่อกระดาษที่ผลิตจากต้นไม้โดยตรง และใช้หมึกพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่ทำลายระบบนิเวศ ซึ่งผ่านการทดสอบมาตรฐานคุณภาพการใช้งานเทียบเท่ากับกล่องพัสดุเกรดดั้งเดิมที่คงไว้ด้วยประสิทธิ ภาพความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้ซ้ำได้ถึง 3 – 4 ครั้ง (หากสภาพกล่องยังคงแข็งแรง) มีวางจำหน่าย ณ ไปรษณีย์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท

ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเคียงคู่ไปกับ การดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้ทุกกระบวนการ – ตลอดเส้นทางการขนส่งเกิดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ด้วยโครงการ reBOX ต่อเนื่องปีที่ 4 เปิดรับรวบรวมกล่องพัสดุ ซองกระดาษที่ ไม่ใช้แล้ว และกระดาษอื่นๆ จากทั่วประเทศ ส่งคืนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลโดย SCGP ส่งมอบให้หน่วยงานเพื่อคนพิการ อาทิ สภากาชาดไทย มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมคนสายตาเลือนราง (แห่งประเทศไทย) สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย

 
“ไปรษณีย์ไทยยังมุ่งมั่นเดินหน้าโครงการ reBOX #4 โดยเปิดรับกล่องพัสดุที่ชำรุดแล้วหรือไม่ประสงค์ใช้งานต่อ รวมถึงผลิตภัณฑ์กระดาษอื่น ๆ อาทิ แกนกระดาษชำระแบบม้วน แผงไข่กระดาษ ล็อตเตอรี่เก่า การ์ดเชิญชวนงานต่างๆ ณ จุด Drop Box ที่ไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงพันธมิตรที่ ร่วมโครงการ โดยในช่วงสิ้นสุดโครงการไปรษณีย์ไทยจะร่วมกับ SCGP นำผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่ใช้แล้ว ไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล และสร้างประโยชน์ใหม่เพื่อส่งมอบ “กล่องรักที่สัมผัสได้” พิเศษ!! ผู้ที่ร่วมโครงการสามารถรับสิทธิประโยชน์จากการสะสมแต้มผ่าน Post family สูงสุด 10,000 แต้ม เป็นส่วนลดการส่งพัสดุกับไปรษณีย์มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท และยังสามารถสะสมแต้มผ่าน ECOLIFE Application Green2Get Application เพื่อสะสมพอยต์แลกของรางวัลพิเศษได้อีกด้วย” ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ reBOX สามารถรวบรวมกล่อง/ ซองที่ไม่ใช้แล้ว นำมาส่งที่ไปรษณีย์ ทั่วประเทศ และจุดรับกล่อง/ ซอง ณ หน่วยงานพันธมิตร สำหรับลูกค้า ประชาชน หน่วยงานพันธมิตร ที่มีกล่อง/ ซองจำนวนมาก สามารถขอรับบริการรับฝากนอกสถานที่ (Pick – Up service) ได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่ง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2566

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 พ.ค. 2566 เวลา : 17:07:54
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 12:37 am