เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ


 
ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าที่บริเวณ 1,955 เหรียญ ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,985 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม และเผชิญแรงเทขายทำกำไร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันได้ และปรับร่วงลงมาใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ อย่างไรก็ตาม การเจรจาขยายเพดานหนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเท่าไรนัก โดยตลาดให้ความสนใจ และขานรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.744% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.382% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ -0.64% บ่งชี้ว่าตลาดขายพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากขึ้น และไปลงทุนหุ้นกู้ระยะสั้นแทน ภาพรวมตลาดการเงินมีความผันผวนค่อนข้างมาก สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Prelim GDP q/q ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวใกล้เคียงเดิม ขณะที่ Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวออกมาตามที่คาดการณ์ คาดว่าดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอยู่ โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ 103.54 จุด และเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 103.35-103.91 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 104.02 จุด โดยดัชนีดอลลาร์มีแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วัน ที่ระดับ 102.6 จุด และเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน ที่ระดับ 103.2 จุด ซึ่งหากดัชนีดอลลาร์ยืนเหนือระดับ 103.6 จุดต่อเนื่องไปอีกสัปดาห์ อาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ต่อ ขณะเดียวกันหลังจากที่ค่าเงินบาททะลุ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ขึ้นไปในช่วง 3 วัน ค่าเงินบาทก็ปรับตัวอ่อนค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเช้านี้ค่าเงินบาทขึ้นมาทดสอบที่ 34.75 บาทต่อดอลลาร์ ภาพรวมค่าเงินบาทอยู่ในลักษณะแนวโน้มที่จะอ่อนค่าขึ้น โดยมีแนวรับที่ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ และแนวต้านที่ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อเดือนก.พ. สำหรับในส่วนของราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways ระหว่าง 31,900-32,250 บาทต่อบาททองคำ จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทแม้ว่าราคาทองคำตลาดโลกจะปรับตัวลดลงก็ตาม นอกจากนี้ยังมีสิ่งนักลงทุนต้องจับตา คือ การที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะออกเงินยูโรดิจิทัลได้ภายใน 3 หรือ 4 ปี เพื่อทำให้เงินยูโรดิจิทัลสามารถทำงานร่วมกันได้กับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลแทน

 
 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำทางเทคนิคยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,980 เหรียญได้ ทำให้ในระยะสั้นแนวโน้มราคาทองคำเป็นขาลง โดยหากราคาทองคำหลุดระดับ 1,954 เหรียญลงมา จะมีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ โดยราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,939 เหรียญ และแนวรับระยะกลางอยู่ที่ 1,910 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci Retracement ที่ 61.70% สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนให้มีความระมัดระวังและบริหารพอร์ตให้ดี ขณะที่ราคาทองไทยได้รับความสนใจ จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาทองไทยสามารถทรงตัวได้ โดยราคาทองไทยจะมีแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 32,000 บาทต่อบาททองคำ และแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันที่ระดับ 32,200 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งภาพรวมราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways และอาจจะปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าไปถึง 35 บาทต่อดอลลาร์ จากประเด็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากไม่เป็นไปตามผลการเลือกตั้งของประชาชน อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรุนแรง

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,955 เหรียญ และแนวต้าน 1,990 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,945 เหรียญ และแนวต้าน 1,980 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,300 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,400 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 
 
 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำนักลงทุนปรับกลยุทธ์ตามแนวโน้มทิศทางขาลง หาจังหวะ Open Short บริหารความเสี่ยงในการลงทุนให้ดี กำหนดจุดหยุดขาดทุนทุกครั้งที่ทำการเปิดสถานะ และลดการถือครอง Long Position

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

แนะนำให้ลดหรือปิดสถานะซื้อ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน บริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม และควรมีจุด Stop Loss หากราคาหลุดแนวรับลงไปอีก

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา

บันทึกโดย : วันที่ : 25 พ.ค. 2566 เวลา : 11:57:41
07-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 7, 2024, 11:49 am