บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” ประกาศเดินเกมรุกเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 5-11 แห่ง พร้อมเครื่องไตเทียมเพิ่มอีก 86-106 เครื่อง และเตรียมสยายปีกธุรกิจติดตั้ง ระบบน้ำและระบบติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์เพิ่มขึ้น หนุนรายได้ทั้งปีแตะ 500 ล้านบาทตามแผนที่วงางไว้
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ว่า บริษัทฯ เดินเกมรุกด้านการขยายสาขาเพิ่มตามเป้าหมายทที่วางไว้จะเปิดสาขาเพิ่มในปีนี้ 5-11 แห่ง และเครื่องไตเทียมเพิ่มอีก 86-106 เครื่อง โดยแบ่งเป็นแผนการขยายภายใต้ KTMS ประมาณ 4 - 9 แห่ง พร้อมเครื่องไตเทียมประมาณ 70 - 82 เครื่อง และแผนขยายให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมทั้งในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล ภายใต้ บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (“NEP”) ประมาณ 1 - 2 แห่ง และซื้อเครื่องไตเทียม ประมาณ 16 - 24 เครื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการของ KTMS ให้สามารถจะดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงและครอบคลุมทั่วทั้งประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับแผนการขยายสาขา บริษัทฯอยู่ระหว่างการเริ่มทยอยเปิดสาขา 5 สาขา อาทิ จ.ตาก, จ.พัทลุง,จ.สุราษฎร์ธานี ,จ.ขอนแก่น และจ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยล่าสุด KTMS ได้มีการให้บริการหน่วยไตเทียม ณ โรงพยาบาลสีชมพู เฟสแรก จำนวน 4 เตียง จ.ขอนแก่นอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้เตรียมขยายเตียงให้ครบ 16 เตียงในเฟสต่อไปเร็วๆ นี้ ส่วนสาขา จ.พัทลุง ได้มีการเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปี2566 และคาดว่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้
“KTMS ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการในจังหวัดดังกล่าวเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน KTMS มีสาขาสำหรับบริการหน่วยไตเทียมแล้ว 23 แห่ง และมีจำนวนเครื่องไตเทียม 283 เครื่อง ซึ่งกระจายการให้บริการในกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง ภาคตะวันตก 2 แห่ง ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคตะวันออก 2 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง”
ส่วนแผนลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2566 ทั้งนี้ หากโรงงานแล้วเสร็จ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3-4 ล้านแกลลอนต่อปี ส่งผลให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 900,000 แกลลอนต่อปี
ข่าวเด่น