การค้า-อุตสาหกรรม
เงามืดกับหมูเถื่อน ท้าทายอำนาจรัฐ


 
“หมูเถื่อน” เป็นประเด็นที่ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศจับตาด้วยความสนใจ และหวังจะได้ยินข่าวดีว่า “ตัวบงการ” ถูกเปิดโปงให้สังคมได้รับรู้ในเร็ววัน ขณะที่หมูเถื่อนถูกยกระดับขึ้นเป็นวาระเร่งด่วนจากภาคเกษตรกร ภาคสังคมและภาคการเมือง เพื่อเร่งรัดการทำงานภาครัฐ ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับมาเป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการให้มีความคืบหน้าและโปร่งใส หลังคลุมเครือและยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี ผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศเฝ้ารอดูความผลสำเร็จของการดำเนินคดี และส่งต่อคดีให้กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด

1 ปี ที่ผ่านมา กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ ตามล่าหมูเถื่อนอยู่เนืองๆ จับได้บ้างแต่จับไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ “ตัวบงการ” ยังอยู่ใน “เงามืด” สั่งการหลังฉากปรับเปลี่ยนกลเม็ด ทำทุกวิถีทางเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทั้งการสำแดงเท็จ เป็นอาหารทะเลแช่แข็งหรือโพลีเมอร์ ให้สินค้าผ่านด่านศุลกากรนำไปกระจายในตลาด โดยไม่ผ่านการตรวจสอบโรคสัตว์และโรคระบาดที่อาจติดมากับเนื้อสัตว์เหล่านี้ รวมถึงการส่งเป็นสินค้าผ่านแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่แล้วนำกลับเข้ามาในไทยอีกครั้ง ระยะหลังเจ้าหน้าที่รู้ทางจับได้หลายครั้งที่หลายด่าน เช่น สระแก้ว สงขลา มุกดาหาร เป็นต้น ได้ของกลางหลักร้อย-หลักพันกิโลกรัม ส่งดำเนินคดีตามขั้นนตอน

 
วันนี้ สังคมจับตาการดำเนินคดี “หมูเถื่อน” ภายใต้ความรับผิดชอบของ DSI ว่าจะมีความรวดเร็วและโปร่งใสกว่าที่ผ่านมาอย่างไร โดยเฉพาะการลงพื้นที่อย่างว่องไวหลังรับคดีมาจากกรมศุลกากร ในการตรวจสอบหลักฐานตู้หมูเถื่อนตกค้าง 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จะเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานของภาครัฐในการส่องไฟให้เห็นหน้า “เงามืด” กันชัดๆ ว่าคนร้ายตัวจริงที่บ่อนทำลายเศรษฐกิจไทยและทำให้คนไทยเสี่ยง “ตายผ่อนส่ง” จากการสะสมในร่างกายของสารปนเปื้อนและสารเร่งเนื้อแดง ที่ติดมากับเนื้อหมูลักลอบเหล่านี้

 
ก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ปากคำกับ DSI ว่า ตั้งแต่ 2564 จนถึงปัจจุบัน มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 50,000 ล้านบาท และมีนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลรักษาการณ์ชุดปัจจุบันที่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่แวดวงเกษตรและสหกรณ์ มีส่วนเกี่ยวข้องลักลอบนำเข้าและเป็นระดับผู้สั่งการ พร้อมชี้ให้เห็นถึงการกระทำทุจริตของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่ทำเป็นขบวนการรับสินบนเดือนละไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เหล่านี้ ล้วนเป็นโจทย์ที่ DSI ต้องสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน นำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ให้สังคมรับทราบ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เลี้ยงหมู ที่ต้องแบกภาระขาดทุนจากการแทรกแซงราคาของหมูเถื่อน และคนไทยที่อาจบริโภคหมูติดโรค-ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว

ผู้เลี้ยงหมูไทย หวังว่า DSI จะเป็นอำนาจรัฐที่มาช่วยปราบ “หมูเถื่อน” ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย รวมถึงนำ “ตัวบงการ” ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือเครือข่ายผู้มีอิทธิพล มารับโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด ยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการทุจริตกระทำผิดกฎหมายให้ตกเป็นของแผ่นดิน ไม่ปล่อยให้อำนาจมืดอยู่เหนืออำนาจรัฐเช่นที่ผ่านมาในทุกๆกรณี  เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่หนทางที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ คนผิดต้องรับโทษตามครรลองครองธรรมไม่ปล่อยให้ลอยนวลอีกต่อไป./ 
 
 
ศิริกุล สดับสำเนียง นักวิชาการด้านปศุสัตว์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ก.ค. 2566 เวลา : 21:29:48
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 11:08 pm