กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมกระตุ้นและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าและบริการในตลาดชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยใช้ “ตลาดต้องชม” เป็นกลไกในการขยายช่องทางการตลาดเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าโดยตรงแก่ประชาชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชนในแต่ละจังหวัด โดยกำหนดจัดกิจกรรม ตลอดเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2566 ณ ตลาดต้องชม 15 แห่ง ใน 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่จังหวัดตรัง พัทลุง กระบี่ พังงา ชุมพร และสงขลา โดยตลาดต้องชมแต่ละแห่งมีกิจกรรมกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากมาย ให้ได้เลือกชมและเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการจากฝีมือคนไทยเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ตลาดต้องชม” เป็นนโยบายส่งเสริมการตลาดในประเทศที่สำคัญของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการขับเคลื่อนเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ระดับฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ตลาดชุมชนในท้องถิ่นให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน จากจุดเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2559 จนถึงวันนี้มีการขยายจำนวนตลาด ทั่วประเทศแล้วจำนวน 238 แห่ง ที่เป็นจุดหมายสำคัญรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดย กรมการค้าภายใน ได้เข้าไปสนับสนุนในการออกแบบและปรับปรุงป้ายตลาด แลนด์มาร์คใหม่ จัดเตรียมสถานที่จัดงานและตกแต่งให้สวยงามสอดคล้องกับลักษณะงานที่สื่อถึงเอกลักษณ์ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม อัตลักษณ์ รวมทั้งวิถีชีวิตของชุมชนในตลาดต้องชม อาทิ จัดทำจุดถ่ายภาพ และจัดให้มีกิจกรรมการแสดง หรือกิจกรรมของตลาดต้องชม เช่น การรำ การฟ้อน การแสดงโฟล์คซอง โดยเน้นให้คนในท้องถิ่นมีส่วนร่วม เพื่อบ่งบอกความเป็นอัตลักษณ์ของ ตลาดนั้นๆ และสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ไปเที่ยวชม นอกจากนี้ ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายสร้างการ มีส่วนร่วมให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน เช่น การแจกคูปองแทนเงินสดสำหรับใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าภายในงาน กิจกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าในตลาดผ่านระบบการใช้งานในโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) สำหรับการซื้อสินค้าในตลาด เพียงกดเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @ DIT GO และเช็คอินที่ ตลาดนั้นๆ ก็จะได้รับคูปองแทนเงินสด ในการซื้อสินค้าในตลาดได้ทันที ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและ ผู้ขายในตลาดชุมชนอีกด้วย
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมของตลาดต้องชมได้ที่เว็บไซต์ www.dit.go.th Line Official “DIT GO” และ Facebook กรมการค้าภายใน DIT
ข่าวเด่น