เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ฟื้นจำกัด ไหลลงได้ต่อ"


SET ไหลลงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักกดดันดัชนีได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1440 และ 1430 จุด ตามลำดับ ด้านภาวะ oversold ทางเทคนิค ทำให้ดีดขึ้นสลับบางช่วง แต่ยังไม่แสดงสัญญาณกลับตัว โดยกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1455 จุด และจุดติดตามบริเวณ 1470 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ เป็นสัญญาณบวก

ประเด็นสำคัญ

• ธปท. ระบุเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 11 เดือน ลดลง 6.75%YTD จากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะเงินดอลลาร์แข็งค่าหลังมีความเป็นไปได้ที่ Fed จะคง ดบ. นานกว่าที่คาดและ ศก. สหรัฐดีกว่า ปท. อื่นๆ

• สรท. จับตาการส่งออกไทย 4Q66 คาดการณ์ยังเผชิญความเสี่ยง โดยเฉพาะ ศก. โลกและคู่ค้าสำคัญของไทย พร้อมทั้งปรับเป้าการส่งออกปีนี้เป็นติดลบ 1.0-1.5%

 ครม.เห็นชอบตั้ง คกก. ดิจิทัล วอลเล็ต โดยมีนายกฯ เป็น ปธ. ประชุมนัดแรกสัปดาห์นี้ คาดรับเงิน 10,000 บาท เดือน ก.พ. 2567

• ก.พลังงานเตรียมหารือ ก.พาณิชย์ควบคุมค่าการตลาดน้ำมันทุกประเภทไม่เกิน 2 บ./ลิตร จากปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันเบนซินที่ 3-4 บ./ลิตร ด้าน สกนช. คาดปีนี้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 1 แสนลบ. หลังอุดหนุนราคาขายดีเซลให้ไม่เกิน 30 บ./ลิตรถึงสิ้นปีนี้

• สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กังวลเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บ./ดอลลาร์ ส่งผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากกำลังซื้อตลาดโลกยังไม่ฟื้นตัว คาดปีนี้ส่งออกเหลือ 8 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 8.5 ล้านตัน ส่วนปีหน้าคาดลดลงเหลือ 7-7.5 ล้านตัน

• สหรัฐรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) ส.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 9.61 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. และสูงกว่าคาดที่ระดับ 8.8 ล้านตำแหน่ง

• การประชุม JMMC ของกลุ่ม OPEC+ ในวันนี้ คาดที่ประชุมจะมีมติคงนโยบายการผลิต ส่งผลให้ OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี 2567

กลยุทธ์การลงทุน

แม้เดือน ต.ค. คาด SET จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากคาดหวังมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ดีช่วงสั้นภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใสและการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัว คาดจะยังกดดันบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ฟื้นตัวช้าหรือปรับขึ้นได้ไม่แรงมากนัก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : สัปดาห์นี้มอง SET ปรับลงแรง ถูกกดดันจากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันและภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ไม่สดใส โดยล่าสุด World Bank ปรับลดคาดการณ์ GDP growth ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมทั้งไทย) ซึ่งกดดันบรรยากาศการลงทุนทำให้ SET Index ทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้นจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไร มองเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้นที่ราคา Oversold และยังมีปัจจัยพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เนื่องจากคาดราคาหุ้นจะรีบาวด์ได้ดีหาก SET ฟื้นตัว เลือก CPALL TOP CPN BDMS MINT

2) หุ้นเก็งกำไรในธีมปิโตรดอลลาร์ จากกำลังซื้อตลาดตะวันออกกลางดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น 10%QoQ ใน 3Q66 เลือก BH (ผู้ป่วยตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น) 

3) หุ้นเก็งกำไรจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง เลือก PTTEP BCP ทั้งนี้จะเริ่มเพิ่มความระมัดระวังการเก็งกำไรหาก Brent เกิน 100 เหรียญสหรัฐ 

4) หุ้นซื้อลงทุน โดยคาดผลการดำเนินงาน 3Q66 จะมีเติบโตดี และยังมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่องใน 4Q66 เลือก BCH HANA KCE AOT ERW KLINIQ

ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

DAILY TOP PICKS

ADVANC 3Q66 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY จากการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB ที่ลดลงต่อเนื่องและฐานผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความชัดเจนดีลควบรวมระหว่าง ADVANC และ 3BB คาดมีโอกาสนำไปสู่ภาพการแข่งขันธุรกิจ FBB ที่ลดลง

BCH 3Q66 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q66 แรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และรายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 66
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ต.ค. 2566 เวลา : 09:09:17
01-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 1, 2024, 4:36 pm