การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
"นิด้าโพล" เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "การแจกเงิน ดิจิทัลวอลเลต ควรไปต่อหรือพอแค่นี้"


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การแจกเงิน ดิจิทัลวอลเลต ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่าง ด้วยวิธี แบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

 
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนต่อนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ว่าอาจจะทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย กับประเทศ (เช่น เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ) ตามคำเตือนของ 99 นักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล รองลงมา ร้อยละ 28.47 ระบุว่า ไม่กังวลเลย ร้อยละ 25.27 ระบุว่า กังวลมาก ร้อยละ 15.19 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 47.10 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อ แต่ควรมีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน รองลงมา ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อตามที่ได้หาเสียงไว้ ร้อยละ 18.85 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วนการรับเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 79.85 ระบุว่า รับเงินและนำไปใช้จ่าย รองลงมา ร้อยละ 13.51 ระบุว่า ไม่รับเงิน ร้อยละ 5.42 ระบุว่า รับเงิน แต่ไม่นำไปใช้จ่าย และร้อยละ 1.22 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลยกเลิกนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 60.00 ระบุว่า ส่งผลกระทบให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง รองลงมา ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.49 ระบุว่า ส่งผลให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น และร้อยละ 3.59 ระบุว่า ไม่ทราบ/ ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.55 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 18.01 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.44 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.74 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.71 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่าง ร้อยละ 12.90 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.79 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.93 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 23.74 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.41 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.60 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.99 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

ตัวอย่าง ร้อยละ 33.82 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.82 สมรส และร้อยละ 2.36 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 26.03 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.02 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 24.73 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 7.86 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.48 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 20.00 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.44 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 17.10 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.77 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ร้อยละ 5.19 เป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 0.08 เป็นพนักงานองค์กรอิสระ ที่ไม่แสวงหากำไร และไม่ระบุอาชีพ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ตัวอย่าง ร้อยละ 21.76 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 24.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 27.71 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 8.47 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.04 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 4.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.62 ไม่ระบุรายได้

1. ท่านกังวลหรือไม่ว่า นโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท อาจจะทำให้ได้ไม่คุ้มเสียกับประเทศ (เช่น เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ) ตามคำเตือนของ 99 นักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์

ค่อนข้างกังวล ร้อยละ 30.92

ไม่กังวลเลย ร้อยละ 28.47

กังวลมาก ร้อยละ 25.27

ไม่ค่อยกังวล ร้อยละ 15.19

ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 0.15

รวม ร้อยละ 100.00

2. ท่านคิดว่ารัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ควรดำเนินนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ต่อไปหรือไม่

ดำเนินนโยบายต่อ แต่ควรมีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ร้อยละ 47.10

ดำเนินนโยบายต่อตามที่ได้หาเสียงไว้ ร้อยละ 32.52

ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว ร้อยละ 18.85

ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 1.53

รวม ร้อยละ 100.00

3. หากมีการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ท่านจะรับเงินดิจิทัลนี้หรือไม่

รับเงินและนำไปใช้จ่าย ร้อยละ 79.85

ไม่รับเงิน ร้อยละ 13.51

รับเงิน แต่ไม่นำไปใช้จ่าย ร้อยละ 5.42

ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 1.22

รวม ร้อยละ 100.00

4. หากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ตัดสินใจยกเลิกนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ท่านคิดว่าจะส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ส่งผลกระทบให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง ร้อยละ 60.00

ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 29.92

ส่งผลให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.49

ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 3.59

รวม ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 1 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามภูมิภาค

กรุงเทพฯ จำนวน 112 ร้อยละ 8.55

ภาคกลาง จำนวน 243 ร้อยละ 18.55

ภาคเหนือ จำนวน 236 ร้อยละ 18.01

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 438 ร้อยละ 33.44

ภาคใต้ จำนวน 180 ร้อยละ 13.74

ภาคตะวันออก จำนวน 101 ร้อยละ 7.71

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 2 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ

ชาย จำนวน 630 ร้อยละ 48.09

หญิง จำนวน 680 ร้อยละ 51.91

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 3 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ

18-25 ปี จำนวน 169 ร้อยละ 12.90

26-35 ปี จำนวน 233 ร้อยละ 17.79

36-45 ปี จำนวน 248 ร้อยละ 18.93

46-59 ปี จำนวน 349 ร้อยละ 26.64

60 ปีขึ้นไป จำนวน 311 ร้อยละ 23.74

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 4 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามศาสนา

พุทธ จำนวน 1,263 ร้อยละ 96.41

อิสลาม จำนวน 34 ร้อยละ 2.60

คริสต์ /ฮินดู/ซิกข์/ยิว/ไม่นับถือศาสนาใดๆ จำนวน 13 ร้อยละ 0.99

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 5 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามสถานภาพการสมรส

โสด จำนวน 443 ร้อยละ 33.82

สมรส จำนวน 836 ร้อยละ 63.82

หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ จำนวน 31 ร้อยละ 2.36

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 6 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับการศึกษา

ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า จำนวน 341 ร้อยละ 26.03

มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า จำนวน 477 ร้อยละ 36.41

อนุปริญญาหรือเทียบเท่า จำนวน 105 ร้อยละ 8.02

ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จำนวน 324 ร้อยละ 24.73

สูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จำนวน 63 ร้อยละ 4.81

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 7 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอาชีพหลัก

ข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 103 ร้อยละ 7.86

พนักงานเอกชน จำนวน 229 ร้อยละ 17.48

เจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ จำนวน 262 ร้อยละ 20.00

เกษตรกร/ประมง จำนวน 163 ร้อยละ 12.44

รับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน จำนวน 224 ร้อยละ 17.10

พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน จำนวน 259 ร้อยละ 19.77

นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 68 ร้อยละ 5.19

พนักงานองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไร จำนวน ร้อยละ 0.08

ไม่ระบุ 1 ร้อยละ 0.08

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

ตารางที่ 8 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

ไม่มีรายได้ จำนวน 285 ร้อยละ 21.76

ไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 317 ร้อยละ 24.20

10,001-20,000 บาท จำนวน 363 ร้อยละ 27.71

20,001-30,000 บาท จำนวน 111 ร้อยละ 8.47

30,001-40,000 บาท จำนวน 66 ร้อยละ 5.04

40,001 บาทขึ้นไป จำนวน 55 ร้อยละ 4.20

ไม่ระบุ จำนวน 113 ร้อยละ 8.62

รวม จำนวน 1,310 ร้อยละ 100.00

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ต.ค. 2566 เวลา : 18:41:00
29-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 29, 2024, 9:37 pm