ประกัน
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งในกรอบ รอถ้อยแถลงประธานเฟด"


 

คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1400-1420 จุด โดยคาดนักลงทุนรอติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ย ด้านแนวโน้มราคา ติดตามแนวรับ 1407 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาคจะฟื้นตัวกลับหากรอบบน 1420 จุด ได้ ส่วนกรณีต่ำกว่า มีแนวโน้มลงหากรอบล่างบริเวณ 1400 จุด

ประเด็นสำคัญ

• EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ปีหน้าลงมาที่ 93.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.8% จาก ต.ค. พร้อมคาดปริมาณใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐปีหน้าจะลดลง 1% ต่ำสุดในรอบ 20 ปี

• API ระบุสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 12 ล้านบาร์เรล สวนทางที่คาดว่าลดลง 3 แสนบาร์เรล ขณะที่ EIA เลื่อนรายงานสัปดาห์นี้จากการปรับปรุงระบบ และจะรายงานในสัปดาห์หน้า

• สหรัฐระบุจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 2.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง

• IMF เตือนยุโรปตะวันออกขึ้นค่าแรงกว่า 20% อาจทำศักยภาพการแข่งขันลดลง แนะนำ ECB ควรตรึง ดบ. ที่ระดับสูงไปจนถึงปีหน้า เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

• ก.คลังเตรียมปรับเพดานโชว์สินค้า ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อลดความแออัด นทท. ที่สนามบิน-กระตุ้นจับจ่าย คาดเสนอ ครม.ได้ภายใน 2 สัปดาห์

• รมว.อุตฯ สั่งเร่งตามความคืบหน้าเอกชนรับประทานบัตรทำเหมืองโปแตชทั้ง 3 ราย ขณะที่เกิดข้อกังวลหวั่นเหมืองโปแตชกระทบสิ่งแวดล้อม แนะทำเมืองใหม่รับเหมืองฯ โดยเฉพาะ

• IAA ระบุตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 15%YTD ซึ่งถือว่าลดลงมากสุดในโลก เนื่องจากขาดเงินจากนักลงทุนระยะยาวเข้ามาสนับสนุน ขณะที่ FETCO เตรียมเสนอนายกฯ หารือตั้งกองทุนออมหุ้นระยะยาว-ต่ออายุ SSF แต่ใช้เงื่อนไข LTF-ระยะเวลาสั้นลง

กลยุทธ์การลงทุน

แม้ SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หลังมีความหวังเฟดอาจใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดี คาด Upside จะยังถูกจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่เพิ่มเติมที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศลงทุน อีกทั้งมีประเด็นเสี่ยงที่ต้องติดตามจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และปัจจัยในประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงติดตามการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q66 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : แม้ SET มีโอกาสฟื้นตัวต่อได้ แต่ Upside ยังถูกจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ รวมทั้งรอติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลาง และประกาศงบ 3Q66 ของกลุ่ม Real Sector กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้น Big Cap. ที่คาดฟื้นตัวตามตลาด โดยเลือกหุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก BDMS CPALL CPN MINT

2) หุ้นที่คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องไปใน 4Q66 (+YoY, +QoQ) เลือก AP AOT BCH CENTEL รวมทั้ง KCE ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว (+QoQ)

3) หุ้นเก็งกำไร ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หากความตึงเครียดในตะวันออกกลางไม่ทวีความรุนแรงมากขึ้น (Upside ราคาน้ำมัน 5-10 เหรียญสหรัฐฯ) แนะนำเทรดดิ้งราคาน้ำมัน Brent ในกรอบ 84-94 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เลือก BCP PTTEP

ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

OR 3Q66 คาดมีกำไร 3.3 พันลบ. เติบโต 21%QoQ แรงหนุนจากกำไรสินค้าคงเหลือและกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น ขณะที่กำไร 4Q66 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ จากมีผลกระทบเชิงบวกของกำไรสินค้าคงเหลือใน 3Q66 ส่วนปริมาณการขายจะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล

CENTEL 3Q66 คาดกำไรเติบโต YoY และ QoQ จากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารในไทย อีกทั้งกำไรยังจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องใน 4Q66 จนถึงปี 2567 อีกทั้งช่วงสั้นราคาหุ้นยังมีแรงหนุนจากตลาดคาดมีโอกาสลุ้นเข้าดัชนี MSCI รอบใหม่ 14 พ.ย.นี้
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 พ.ย. 2566 เวลา : 10:40:57
04-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 4, 2024, 10:36 am