คริปโตเคอเรนซี่
ออร์บิกซ์ เทรด เปิดตัว "orbix" กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ตอบโจทย์การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ รับช่วง Halving ปีหน้า ตั้งเป้าเป็น Top 3 ในไทย


 
 
บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) ภายใต้บริษัท ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว ออร์บิกซ์ (orbix) กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยแนวคิด “สู่ประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” ตอบโจทย์ทางเลือกการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ชูจุดเด่น มีฟีเจอร์ เครื่องมือและข้อมูลที่ช่วยในเรื่องการลงทุน โดยได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกํากับดูแลของ สำนักงาน ก.ล.ต. และให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรฐานการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001:2013 และ ISO 27701:2019 
 
 
นายชาญวิทย์ รุ่งเรืองลดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมีโอกาสที่จะเติบโตสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนตลาดโลก จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า มูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา สินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน (ที่มา https://www.sec.or.th/TH/Pages/WeeklyReport.aspx)
 
เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่จะเกิดขึ้น บริษัทได้เปิดตัว “orbix” เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิด “สู่ประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้งานง่ายและมีการเพิ่มความปลอดภัย ผ่านแพลตฟอร์มที่ให้บริการตามมาตรฐานการจัดการความมั่นคปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001:2013 และ ISO 27701:2019  รวมถึงฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมทีมให้บริการช่วยเหลือลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง 

 
ทั้งนี้ “orbix” มีจุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ 1. สัมผัสกับโลกแห่งการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ “orbix” ที่ง่าย (Easy) ในเรื่องซื้อ-ขาย-โอนเหรียญ รวมทั้งการสมัครใช้งานได้ด้วยตนเอง โดยการสมัครใช้งาน “orbix” สามารถเลือกวิธีการยืนยันตัวตนได้ 2 แบบ คือ การยืนยันตัวตนผ่าน NDID สำหรับลูกค้าทั่วไป และการยืนยันตัวตนบน K+ สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย* 
 
2. “orbix” พัฒนาฟีเจอร์ Wallet Lock ที่มีระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น ลูกค้าสามารถตั้งค่าเปิด-ปิด Wallet Lock ได้ด้วยตนเอง 
 
3. “orbix” พัฒนาฟีเจอร์ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือและข้อมูลที่ช่วยในการลงทุน (Smart) ได้แก่ Price Alert ตั้งเตือนราคาที่ใช่ ไม่ต้องเฝ้าจอ ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง และ orbix Balance** ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญ โดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ (** หมายเหตุ: ฟีเจอร์ orbix Balance จะสามารถเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนธันวาคม 2566 การคำนวณใน orbix Balance เป็นการคำนวณเบื้องต้นจากข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์และข้อมูลต้นทุนของผู้ใช้งาน โดยการคำนวณเหล่านี้ไม่ใช่การให้คำแนะนำทางการเงินหรือแนวคิดแนะนำใด ๆ) เพราะ Pain Point ของลูกค้าในการใช้กระดานเทรด ที่ลูกค้าไม่ทราบต้นทุนในการลงทุนของตัวเอง ตัวของ orbix Balance จะเข้าอุดช่องโหว่ตรงนี้ ให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการ Portfolio ของตัวเองได้ดีขึ้น
   
ส่วนด้านแนวโน้มตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล Digital Asset Adoption ในประเทศไทยนั้น อยู่ที่อันดับ 10 ของโลก ฉะนั้นไทยจึงเป็นตลาดลงทุนที่มีศักยภาพ ส่วนภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะเห็นได้ชัดว่ามีผู้เล่นรายใหม่กระโดดเข้ามาร่วมเล่นในตลาดนี้เรื่อยๆ และยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้น เช่น Crypto ETF เหรียญต่างๆ ที่กำลังมีการขออนุมัติกันอยู่ในต่างประเทศ  มี Use Case ใหม่ๆเกิดขึ้นมากขึ้น อีกทั้งยังมีการกำกับดูแลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงปี 2024 นี้ ยังเป็นปีที่มีเหตุการณ์ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 หรือการลดจำนวนการจ่ายเหรียญ Bitcoin ลงกับนักขุด (Bitcoin มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ โดยต้องอาศัยการขุด หรือการใช้ระบบ Proof-of-Work ) ซึ่งจะทำให้ Demand สูงขึ้น และทำให้มูลค่าของ Bitcoin จากการขุดที่ยากขึ้นนั้นสูงขึ้นตาม ปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีการขยายตัวมากขึ้น และเกิด Mass Adoption ในอนาคตที่สุด เพราะฉะนั้น มุมมองในเรื่องของตลาด ทาง orbix คาดการณ์ว่าตลาดมีการขยายตัวต่อ 

สำหรับประเด็นปัญหาต่างๆ เช่นปัญหาของตัวผู้ประกอบการ เช่นการยักยอก การล้มละลาย หรือปัญหาด้านการบริหารภายในที่เคยเห็นผ่านตากันในหน้าข่าวนั้น ในตอนนี้หน่วยกำกับดูแลต่างๆก็ได้เข้ามาควบคุมดูแล และยังกำหนดกฏกติกาที่จะป้องกันผลเสียให้กับนักลงทุนมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยใน Digital Asset Ecocystem มากขึ้นกว่าเดิม เหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจึงมีแนวโน้มที่จะไม่เกิดซ้ำขึ้นอีก ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของทาง orbix ที่จะพยายามให้การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มีความปลอดภัย สะดวก ใช้งานง่าย และในอนาคต ทาง orbix จะมีแนวทางการพัฒนาที่เน้นไปยัง 3 ด้าน ได้แก่ ทำอย่างไรให้ลูกค้าได้รับบริการและใช้บริการอย่างปลอดภัย ทำอย่างไรให้การใช้งานของลูกค้ามีความสะดวก ใช้งานง่าย และทำอย่างไรให้นักลงทุนมีข้อมูล หรือมีเครื่องมือที่ทำให้ตัดสินใจในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงจะยังให้ความสำคัญกับ Feedback ของลูกค้าจากการใช้งาน นำมาปรับใช้ และสร้างเป็น Features ใหม่ในการใช้งาน orbix เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า

 
ทั้งนี้ ทางด้านนายชาญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การ Adoption สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเป็นไปได้จะไต่จากอันดับที่ 10 แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยการเติบโตของ Adoption Index ที่ต้องมีคนเข้าไปใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นในแง่มุมต่างๆ เช่น การเติบโตของจำนวน User ที่เข้าไปใช้ De-fi ในการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น เป็นต้น ส่วนทางด้านผู้ใช้งานของ orbix ในตอนนี้ มี User อยู่ประมาณ 200,000 คน ส่วนทางด้าน Volume Trade ล่าสุดเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และในอนาคต orbix ตั้งเป้าที่จะเป็นกระดานเทรดรายใหญ่ ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากขึ้นในอันดับ Top 3 ของประเทศ  ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเชื่อมั่นว่า “orbix” จะเป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่รวบรวมสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดเข้ามาอยู่ในกระดานเทรดนี้ พร้อมรองรับการใช้งานจากนักลงทุน ให้สามารถตอบรับโอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
 

LastUpdate 30/11/2566 10:17:41 โดย : Admin
28-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 28, 2024, 1:44 pm