เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งในกรอบ รอ breakout"


SET ยังเคลื่อนไหวระหว่างกรอบ โดยกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1390 และ 1398 จุด ตามลำดับ หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวก โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด ขณะที่กรอบล่างมีแนวรับ 1370 จุด ยังรองรับได้ แต่หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อการปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด

ประเด็นสำคัญ

• สัปดาห์นี้จับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ (ประกาศคืนนี้) และการประชุมนโยบายการเงินของ Fed, BoE และ ECB ซึ่งตลาดคาดธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งจะมีมติคง ดบ.

• การจ้างงานนอกภาคเกษตร พ.ย. สหรัฐเพิ่มขึ้น 1.99 แสนตำแหน่ง สูงกว่าคาด ส่วนอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าคาด

• ดัชนี CPI พ.ย. ของจีนลดลง 0.5%YoY ติดลบหนักสุดในรอบ 3 ปี และดัชนี PPI ลดลง 3.0%YoY ลดลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน บ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืดที่รุนแรงและอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวม ศก.

• ธปท. คาด GDP ปีหน้าโต 3.2% ฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ภาคท่องเที่ยว-การผลิตยังไม่ฟื้นเต็มที่ ระบุศักยภาพ ศก. ไทยโตต่ำเหตุจากติดกับดักนโยบายกระตุ้นการบริโภค ขาดนโยบายเชิงโครงสร้าง

• ททท. วางแผนยุทธศาสตร์ปีหน้า เพิ่มรายได้ตลาด ตปท. อีก 5 แสนลบ. รายได้รวม 3.5 ล้านลบ. เสนอต่ออายุวีซ่าฟรี-ขยายตลาด เพิ่มวันพำนัก-กระตุ้นใช้จ่าย ส่วน นทท. จีนตั้งเป้าโต 8.5 ล้านคน

• กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท บลจ. เริ่มเสนอขายแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 66

• งาน Motor Expo 2023 มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นราว 20% อยู่ที่ 1.5-1.6 ล้านคน กลับไปใกล้เคียงกับก่อนเกิดโควิด-19 ขณะที่ยอดจองรถยนต์เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก คาดเกิน 50,000 คัน สูงสุดในรอบ 10 ปี

กลยุทธ์การลงทุน

เรามองช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกอาจมีความผันผวนเพิ่มขึ้น จากนโยบายการเงินที่ไม่ตึงตัวไปกว่าเดิม (ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยสัปดาห์นี้การประชุมนโยบายการเงินของ FED, BoE และ ECB ตลาดคาดจะมีมติคงดอกเบี้ย) ซึ่งหักล้างกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง ดังนั้นจึงมอง SET จะอยู่ในบรรยากาศที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในเดือน ธ.ค. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : SET อยู่ในบรรยากาศที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมีโอกาสได้รับเม็เงินลงทุนในกองทุน TESG ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในเดือน ธ.ค. นี้เป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ดังนี้

1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO ขณะที่หุ้น ESG Rating “A” ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรงมากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ AOT

2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำเริ่มลงทุนแบบ Dollar-Cost-Average (DCA) เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง

ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลซึ่งจะมีการประชุม ครม. 12 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

BCP มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” ขณะที่ 4Q66 คาดกำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น QoQ แรงหนุนจากการรวมผลการดำเนินงานของ ESSO เข้ามาเต็มไตรมาส และปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นที่สูงขึ้นหลังจากหยุดซ่อมบำรุงตามแผนใน 3Q66

KCE มองผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย 4Q66 คาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากสต๊อกของลูกค้าที่ยังค่อนข้างต่ำทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง (คาดรายได้ยังเติบโตได้ต่ออีก 3-4%QoQ แม้จะเป็น Low Season) ขณะที่ต้นทุนราคาทองแดงยังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งค่าไฟฟ้าคาดจะลดลง
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ธ.ค. 2566 เวลา : 11:07:15
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 5:01 am