กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นำทัพหน่วยงานพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ลงพื้นที่เชียงราย สำรวจศักยภาพตลาดล้านเมือง พร้อมจัดสัมมนาและพบหารือเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ ดันสินค้าดาวเด่น ‘กาแฟ ชา สับปะรด’ ใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายส่งออกตลาดการค้าเสรี พร้อมแนะกฎระเบียบทางการค้า การเพิ่มมูลค่าสินค้า และผลิตสินค้า BCG เจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่
.jpg)
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล) ให้ดำเนินโครงการ “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” (ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ) ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม ที่ผ่านมา โดยได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมสำรวจศักยภาพตลาดล้านเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางตลาดค้าส่งผักและผลไม้ สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าประมง พร้อมทั้งจัดสัมมนาและพบหารือกับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องสถานการณ์การผลิตและการค้าสินค้ากาแฟ ชา และสับปะรดภูแลและนางแล รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายส่งออก และยังได้เปิดเวทีวิเคราะห์สินค้าที่ผู้ประกอบการได้นำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานด้วย
.jpg)
.jpg)
นางสาวบุณิกา กล่าวว่า สำหรับการพบหารือกับวิสาหกิจชุมชนกาแฟยอดดอยปางขอน อ.เมืองเชียงราย กาแฟดอยช้าง หญ่าโย คอฟฟี่ (YAYO Coffee) อ.แม่สรวย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิก้าเกรดพรีเมี่ยม กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกชาดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง ผู้ผลิตชาออร์แกนิกคุณภาพ และวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสับปะรด อ.เมืองเชียงราย ผู้ผลิตสับปะรดภูแลและนางแล ที่ได้รับเครื่องหมายส่งออกไปตลาดจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ พร้อมทั้งยังได้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สับปะรดอบแห้ง คุกกี้สอดไส้สับปะรด น้ำสับปะรด และซอสพริกสับปะรดภูแล โดยสินค้าในครั้งนี้ถือเป็นสินค้าที่ได้รับมาตรฐานรับรอง GAP และได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยกรมได้ให้คำแนะนำเรื่องกฎระเบียบทางการค้า โอกาสการส่งออกไปตลาดการค้าเสรี การรักษาคุณภาพมาตรฐานและการเพิ่มมูลค่าสินค้า การแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มุ่งผลิตสินค้า BCG และสินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่และสอดรับกับเมกกะเทรนด์
.jpg)
“การลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่า เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการมีความสนใจที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าศักยภาพ ซึ่งเชียงรายถือเป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะกาแฟและชาที่ปลูกมากที่สุดในไทย นอกจากนี้ ยังเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับสปป.ลาว เมียนมา และจีน ซึ่งกรมมั่นใจว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่มีความเข้มแข็งและพร้อมใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อทางการค้าในตลาดการค้าเสรี ซึ่งคู่ค้า FTA ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว” นางสาวบุณิกา เสริม
.jpg)
ข่าวเด่น