ประกัน
"กรุงเทพประกันภัย" ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้ 3.25 หมื่นล้าน เติบโต 8% เผยปีนี้เป็น "ปีแห่งการฟื้นฟู" เติบโตยั่งยืน


“กรุงเทพประกันภัย” ลั่นปี 67 เป็นปีแห่งการฟื้นฟู เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน หลังปี 66 เป็นปีแห่งการพลิกฟื้น ประกาศแผนปีนี้ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 32,500 ล้านบาท เติบโต 8% มุ่งพัฒนาผลิตผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

 
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2566 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 29,915.7 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ร้อยละ 12.1 มีกำไรจากการรับประกันภัย 2,070.1 ล้านบาท มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 1,299.5 ล้านบาท และบริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,043.8 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท รวมทั้งปี 16.75 บาท พร้อมยืนหยัดความแข็งแกร่งทางด้านการเงินด้วยการมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยอยู่ที่ร้อยละ 185.9 (ณ 30 ก.ย. 66) และรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ พ.ย. 66) โดยStandard & Poor’s (S&P) สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก
 

 
สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2567 สมาคมประกันวินาศภัยไทยประเมินว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงขยายตัว 5-6% จากปัจจัยประกันภัยสุขภาพที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ,นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น , เบี้ยประกันอัคคีภัยสูงขึ้น และการเติบโตก้าวกระโดดของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า 120,000-130,000 คัน เบี้ยประกันภัยสูงกว่ารถสันดาปถึง 30%

 
“ปี 2567 บริษัทฯ ได้พัฒนาต่อยอดสู่การเป็นปีแห่ง Regenerative ซึ่งหมายถึง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าที่บริษัทฯ จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบเชิงบวกจากผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ เพิ่มเติมจากคุณค่าที่เคยได้รับ สร้างความยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอีกด้วย“ ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว 
 

 
กรุงเทพประกันภัยได้ตั้งเป้าหมายด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 32,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 13,690 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor 18,810 ล้านบาท  

ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 อุ่นใจวัยเก๋า ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัย 55 - 75 ปี ที่ชื่นชอบขับรถด้วยตนเองซึ่งนอกจากจะได้รับความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แล้ว ยังเพิ่มเติมความคุ้มครองอื่นๆเช่น เงินชดเชยกายภาพบำบัด เงินชดเชยค่าเวชภัณฑ์คงทนใช้ภายนอกร่างกาย (เวชภัณฑ์ 2) ที่จำเป็นต้องใช้หลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น ไม้เท้า ไม้ค้ำยัน รถเข็นผู้ป่วย เฝือกพยุงคอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบริการ Nursing Care Service at Home ด้วยการมีบุคลากรทางการแพทย์มาดูแลลูกค้าถึงบ้านอีกด้วย  

ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 เพิ่มความคุ้มครองสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) โดยไม่เพิ่มเบี้ยประกันภัย ด้วยความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ที่อยู่ภายในรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการชน 10,000 บาท/ตัว/ครั้ง และกรณีเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครอง 10,000 บาท/ตัว/ครั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มแต่อย่างใด

 
 
• ประกันภัยสุขภาพ (เพิ่มความคุ้มครองจิตเวช) แผนประกันภัยให้ลูกค้าเลือกตามความเหมาะสม ทุนประกันภัยตั้งแต่ 300,000 - 1,000,000 บาท รับประกันภัยอายุ 16 - 70 ปี และสามารถต่ออายุได้ถึง 80 ปี

• ประกันภัยสุขภาพ ผ่าน Telemedicine เป็นการปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Clicknic ที่รองรับถึง 55 อาการของโรคที่สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ทางไกลได้ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย มีไข้ เจ็บคอ ผื่นคัน ตาเจ็บ ฯลฯ พร้อมช่วยลดความกังวลด้วยบริการจัดส่งยาให้ถึงบ้านภายใน 1 ชั่วโมงสำหรับในเขตกรุงเทพฯ และเฟสถัดไปในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะยกระดับบริการด้านTelemedicine ด้วยการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมถึงบริการปรึกษาแพทย์ทางไกลสำหรับการตรวจรักษา อาการหรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะทางจิตใจ เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ทำให้ประชาชนต้องประสบกับภาวะความเครียด ซึ่งก่อให้เกิดโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ

 
• ประกันภัยสำหรับคอนโด ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในคอนโดมิเนียมสาเหตุจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยจากลมพายุ ลูกเห็บ หรือน้ำท่วม รวมถึงคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดเหตุภายในคอนโดมิเนียม และกรณีความเสียหายจากการถูกโจรกรรมที่มีวงเงินความคุ้มครองตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 1,290 บาท

 
• ระบบติดตามสถานะการดำเนินงาน (Progress Tracking) อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าให้สามารถตรวจสอบสถานะในขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะด้านสินไหมทดแทนยานยนต์ (Motor Claims) ได้โดยผ่านช่องทาง LINE @bangkokinsurance และลำดับถัดไปจะขยายช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application และเพิ่มเติมบริการให้ครอบคลุมงานด้านรับประกันภัย งานสินไหมทดแทนทั่วไป (Non-Motor Claims) และทางด้านการเงิน ทั้งนี้ สำหรับตัวแทนและนายหน้าซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ สามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทาง Web Partner

• AI Outbound Voice Chatbot ยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาใช้ในการแจ้งเตือนการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ลูกค้าทางโทรศัพท์ โดยระบบดังกล่าวจะสื่อสารกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง ที่มากับความพร้อมในการตอบคำถามและให้ข้อมูลคาดว่าจะเริ่มให้บริการดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

• Cognitive Customer Portal ตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็วและฉับไว พร้อมสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

 
ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แลตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ให้มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดยบริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนหุ้น “BKI” เป็นหุ้น “BKIH” ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 มิถุนายน 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ จากนั้นจะนำหุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนที่หุ้นของกรุงเทพประกันภัย ประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายและมีศักยภาพต่อยอดสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 
 
บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมควบคู่กับการสร้างการเติบโตด้วยผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า โดยยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการกำหนดกลยุทธ์และกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ ให้ดำเนินไปอย่างสอดคล้องและเกื้อหนุนกัน อาทิ งานด้านการรับประกันภัยและงานด้านสินไหมทดแทนที่มีส่วนในการส่งเสริมให้ผู้เอาประกันภัยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เช่น การออกกรมธรรม์ประกันภัยบ้านอยู่อาศัย Green Guarantee การเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลแทนการรับของสมนาคุณ กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยสุขภาพที่หักค่าเบี้ยประกันภัยส่วนหนึ่ง ให้แก่องค์กรการกุศล รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจรายย่อยให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ผ่านการขยายระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัยของลูกค้า SMEs จากเดิม 30 วัน เป็น 60 วัน เป็นต้น ตลอดจนส่งเสริมกระบวนการดำเนินธุรกิจต่างๆ ภายในบริษัทฯ ให้มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
 

LastUpdate 05/04/2567 19:45:50 โดย : Admin
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 3:43 am