เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
SCB EIC ออกบทวิเคราะห์ มุมมองเศรษฐกิจไทย (Outlook) ปี 2558


 อีไอซีประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะเติบโตในระดับ 3-3.5% โดยแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจในปี 2558 จะมาจาก 1) การท่องเที่ยวที่จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ 2) การส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระดับ 3% และ 3) การลงทุนภาครัฐตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำในปี 2557 เนื่องจาก อีไอซีประเมินว่าแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจอย่างการลงทุนภาครัฐ มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 อีกทั้งการบริโภคภาคครัวเรือนยังคงถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือน และจะฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ทั้งนี้ อีไอซีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2557 จะขยายตัวที่ 0.8%

 

อีไอซีคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโต 10% ในปี 2558 โดยผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มหมดไป และนโยบายช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น  การลดค่าวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ได้สร้างแรงจูงใจให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ เห็นได้จากในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ดังนั้นอีไอซีประเมินว่า ภาคการท่องเที่ยวที่คิดเป็นประมาณ 10% ของเศรษฐกิจไทยจะกลับมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง และจะเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจในปีหน้า

ปัจจัยที่อาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มเติมคือประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายของรัฐ การเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เป็นไปอย่างน่าผิดหวัง บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ดี หากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2558 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะปล่อยเม็ดเงินเข้าสู่ระบบประมาณ 68,000 ล้านบาทในปี 2558 และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนอื่นๆ เช่น การจ่ายเงินสนับสนุนชาวนาและการสนับสนุนธุรกิจ SMEs ก็อาจจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงในเชิงลบก็มีอยู่เช่นกันจากภาคการส่งออกที่อาจจะฟื้นตัวได้ไม่ มากนักเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวในหลายภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุโรป และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

อีไอซีประเมินค่าเงินบาทในปี 2558 จะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเป็น 33.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส ของปี เนื่องจาก 1) ภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในช่วงครึ่งหลังของปี 2) การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้อีไอซีคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 2% ในปี 2558 และมีโอกาสที่จะผ่อนคลายเพิ่มเติม หากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ และยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ


บันทึกโดย : วันที่ : 03 ธ.ค. 2557 เวลา : 19:08:30
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

6. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

11. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

12. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

14. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

15. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 4:49 pm