เอสเอ็มอี
SME Development Bank ดึง 'เจ้เล้ง' โค้ชชิ่งเอสเอ็มอี แนะ 5 กลยุทธ์ ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0 - 4.0


 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จัดงาน  "SMEs Coaching" ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0-4.0 by เจ้เล้งนำประสบการณ์กว่า ทศวรรษ ที่ใช้ในการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จกลั่นหลักการตลาดกลยุทธ์การขายแนะ เอสเอ็มอี” ประยุกต์ใช้ กลยุทธ์นำธุรกิจสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืน 

 

 

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank)  กล่าวเปิดเสวนา"SMEs Coaching" ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0-4.0 by เจ้เล้ง ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน “ สุดยอด SMEs ส่งสุข ส่งท้าย ส่งความประทับใจ ตลาดคลองผดุง2560 ”ที่ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ว่าภายใต้นโยบาย ภารกิจ และความมุ่งมั่นของธนาคารในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ให้ก้าวไกล  ทุกส่วนงานของธนาคาร ได้มีการทำงานเชิงรุกโดยได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการลงมือทำจริงได้รับการยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ทำโครงการ "SMEs Coaching"  เพื่อให้ผู้ประกอบการมาถ่ายทอดประสบการณ์ และเป็นโค้ช (Coach) ให้หลักคิด ถายทอดกลยุทธ์ธุรกิจเชิงรุก และเทคนิคการปรับตัวรับการแข่งขัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงโดยหนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับที่ยินดีมาถ่ายทอดประสบการณ์ บทเรียน ความสำเร็จในการการดำเนินธุรกิจตลอด ทศวรรษ ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คือ  คุณอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตรหรือ “เจ้เล้ง”กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ แอนด์ เจ บิวตี้โปรดักส์ จำกัด เจ้าของเจ้เล้ง พลาซ่า ดอนเมือง

ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นโอกาสทองของ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้มาในงานนี้ เพราะการถ่ายทอดกลยุทธ์การทำธุรกิจ เทคนิคการขาย ที่สั่งสมมายาวนานถือว่าเป็นสุดยอดการตลาดนอกตำราอันทรงคุณค่ายิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจควรนำไปประยุกต์ใช้เพื่อผลสำเร็จที่ยั่งยืนเช่นเดียวกับ “เจ้เล้ง” โดยทางSME Development Bank  ตั้งใจในการหาผู้รู้ คนเก่ง ผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆมาเติมเต็มความรู้ ไม่ใช่เพียงทฤษฏี หรือหลักการสวยหรู แต่เป็นกลยุทธ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตการทำธุรกิจ

 

 

นางอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร  (เจ้เล้งกล่าวในเวทีเสวนาครั้งนี้ ว่า ตนเองมีหลักคิดที่เป็นหัวใจความสำเร็จจนสามารถสร้างฐานะและขยายฐานธุรกิเติบโตต่อเนื่องมาตลอดกว่า 50 ปีด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการทำธุรกิจมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะต้องสำเร็จและร่ำรวยให้ได้ มองธุรกิจระยะยาวไม่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

เจ้ เริ่มค้าขายด้วยเงินทุนเพียง1,200 บาท แต่ตอนนี้เจ้ มีฐานะมั่นคง ไม่มีหนี้สิน ก็อยากจะบอก เอสเอ็มอี ว่าในการทำธุรกิจนั้น ไม่ว่ายุคไหนๆเริ่มแรกต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่นในการทำธุรกิจ ต้องอดทน และอย่าคิดแต่จะได้อย่างเดียว ช่วงแรกๆต้องสร้างชื่อให้แข็งแรง เอาแบบพออยู่ได้

จากประสบการณ์การทำธุรกิจตั้งแต่ยุคดั้งเดิม หรือ เรียกให้ทันสมัยว่า ยุค1.0  ต้อง เจ้เล้ง ต้องประสบกับการแข่งขันทุกรูปแบบ จึงต้องพลิกกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างยุคนี้ การขายผ่านออนไลน์กำลังได้รับความนิยม ร้านเจ้เล้ง ก็มีขายผ่านออนไลน์ เช่นกัน 

เจ้เล้ง กล่าวอีกว่าจากที่ได้มีโอกาสต่อธุรกิจกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตั้งแต่อดีตหลายสิบปีจนกระทั่งปัจจุบัน พบว่าปัญหาของเอสเอ็มอีคือ ความไม่เสถียร ความไม่คงเส้นคงวาในการทำธุรกิจ พอสินค้าติดตลาด มีคนซื้อมากๆก็มักจะขึ้นราคาแบบไม่มีเหตุผลหรือลดปริมาณลงแต่ขายในราคาเท่าเดิม แบบนี้ไม่ดีแน่นอน

 

 

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในการตลาดยุค 4.0 เจ้เล้งเปิดเผยถึงกลยุทธ์สำคัญที่ใช้ในการทำธุรกิจอันดับแรกคือ1.Product : สินค้าต้องมีความเที่ยงตรง คงเส้นคงวา มีความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า2.Peopleต้องใส่ใจใกล้ชิดลูกค้า ส่งมอบของดีมีคุณภาพให้ลูกค้า เจ้าของกิจการจะต้องใส่ใจในรายละเอียด ลงไปดูมาตรฐานคุณภาพสินค้าทุกขั้นตอน ก่อนจะที่สินค้าจะถึงมือลูกค้า ก่อนจะนำผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดๆ มาขายในร้าน เจ้จะต้องทดสอบด้วยตัวเองก่อนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้านั้นๆมีคุณภาพดี 3.Priceในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี กำลังซื้อตกต่ำ ต้องใช้กลยุทธ์ราคา ปรับกลยุทธ์นำสินค้าคุณภาพดี แต่ราคาไม่แพงเข้ามาขาย4.Place มีการปรับเปลี่ยนวิธีการขาย ช่องทางการจัดจำหน่ายให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองความพึงพอใจลูกค้าทุกกลุ่ม อย่างช่วงนี้ต้องเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์5.Consumer Insight ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ถ่องแท้และหาวิธีสื่อสาร บอกเล่าคุณภาพสินค้าจริงๆ สร้างความน่าเชื่อถือ อย่างที่ ร้านเจ้เล้ง ตัวเจ้เป็นเจ้าของพูดเอง โดยขายสินค้าที่มีคุณภาพจริงๆ และบอกความจริงกับลูกค้า เพราะ ความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการทำธุรกิจ


LastUpdate 14/12/2560 00:13:45 โดย : Admin
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

7. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

10. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

11. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

13. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

15. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 2:57 pm