กองทุนรวม
BCAP ผู้นำตลาด ETF เปิดตัว 5 ดัชนีการลงทุนอัจฉริยะตลาดหุ้นไทย เป็นรายแรกของประเทศ


บลจ.บางกอกแคปปิตอล  เปิดตัวดัชนีการลงทุนอัจฉริยะของตลาดหุ้นไทย (BCAP Smart Index Series) จำนวน 5 ดัชนี “5 ไสตล์การลงทุนตอกย้ำผู้นำตลาดกองทุน ETF ในประเทศ หลังส่ง 3 กองทุนลงลุยตลาดและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน เตรียมเปิด IPO กองทุนใหม่ลงทุนตามดัชนีทั้ง 5 ดัชนี ในช่วงไตรมาส 2  ปีนี้  เน้นให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกจัดพอร์ตการลงทุนได้ตามสภาวะตลาด  

 

  

นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำดัชนีการลงทุนอัจฉริยะของตลาดหุ้นไทย (BCAP Smart Index Series) จำนวน 5 ดัชนี โดยให้ S&P Dow Jones Indices ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดทำดัชนีชั้นนำของโลก เป็นผู้คำนวณและเผยแพร่ดัชนีดังกล่าว  โดยบริษัทฯ จะทยอยออกกองทุน ETF จำนวน 5 กองทุน เพื่อลงทุนตามดัชนีใหม่ที่สร้างขึ้นมา นับเป็นอีกขั้นในการพัฒนาทางเลือกให้กับนักลงทุนผ่านกองทุน ETF จากที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีกองทุน ETF ที่ลงทุนตามดัชนีที่ครอบคลุมบริษัทไทยทั้งขนาดใหญ่กลางและเล็กแล้ว  

สำหรับภาพรวมธุรกิจของ BCAP  นับตั้งแต่เปลี่ยนผ่านจากการเป็นสายงานบริหารกองทุนส่วนบุคคลของบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง มาเป็นบริษัทจัดการกองทุนเต็มรูปแบบภายใต้ชื่อ บลจ. บางกอกแคปปิตอล ก็ได้ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรอย่างมากในการปรับปรุงระบบงาน รวมทั้งเสริมกำลังทีมบริหารครั้งใหญ่  เพื่อสร้างความพร้อมในการทำธุรกิจกองทุนรวม โดยบริษัทฯ เริ่มต้นธุรกิจกองทุนรวมด้วยการออกกองทุนเปิด BCAP MSCI Thailand ETF ในเดือน มิ..2559 ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยด้วยขนาดกองทุนกว่า 1,000 ล้านบาทและในเดือนก..2560 ออกกองทุนเปิด BCAP SET 100 ETF  ตอกย้ำความสำเร็จด้วยขนาดกองทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาทเช่นกัน 

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 16 มี..ที่ผ่านมา  บริษัทฯ เพิ่งปิดการจองซื้อกองทุนเปิด BCAP Mid Small CG ETF (BMSCG )ซึ่งเป็นกองทุน ETF น้องใหม่ที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีท่ามกลางเสียงตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ดังนั้นด้วยกองทุนดัชนีที่ครอบคลุมบริษัทไทยทั้งขนาดใหญ่กลางและเล็กในรูปแบบ ETF ที่มีสภาพคล่องสูงสุดทุกตัวในประเทศไทย ทำให้ BCAP ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด ETF ในประเทศไทยอย่างชัดเจน รวมทั้งจากผลงานของกองทุน BMSCITH BSET100 BMSCG ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงตามดัชนีอ้างอิง มีความคลาดเคลื่อนจากผลตอบแทนดัชนี (Tracking Error) ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม นอกจากนี้กองทุนยังมีสภาพคล่องและส่วนต่างราคาเสนอซื้อเสนอขายของทุกกองของบริษัทฯ ก็ทำได้ดีที่สุดในอุตสาหกรรมเช่นกัน

ด้วยความมุ่งมั่นของ BCAP ที่จะเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมในการลงทุนตามดัชนีผ่าน ETF ในประเทศไทย บริษัทฯ จึงได้ศึกษาและวิจัยการสร้างดัชนีการลงทุนกึ่งเชิงรุก (Semi-Active) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลกและยังเป็นเทรนด์ที่สำคัญในการลงทุน ที่กำลังมาแรงที่สุดของโลกในขณะนี้ จึงหวังว่าดัชนีการลงทุนอัจฉริยะของตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนได้นางเมธ์วดี กล่าว

 

 

ดร.ธนาวุฒิ นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร หัวหน้าสายงานจัดการกองทุน บลจ.บางกอกแคปปิตอล เปิดเผยว่า สำหรับดัชนีการลงทุนอัจฉริยะ (BCAP Smart Index Series) ถูกสร้างขึ้น จากการกลั่นกรองหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่มีข้อมูลในอดีตทั่วโลก และแสดงถึงประสิทธิผลในการลงทุนด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ แล้วนำมาหลอมรวมเป็นระบบและขั้นตอนที่ชัดเจนในการลงทุน โดยดัชนีที่สร้างขึ้นนี้จะปรับรายชื่อและน้ำหนักการลงทุนในหุ้นทุกเดือน ตามกลยุทธ์การลงทุนที่พิสูจน์แล้ว

สำหรับดัชนีดังกล่าวมีทั้งหมด 5 ดัชนี ได้แก่ 1.ดัชนี BCAP Value Investing Index (BVALUE) จับหัวใจกลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investing มาใช้เลือกหุ้นที่มีลักษณะดังกล่าวอย่างเป็นระบบและขั้นตอน  2.ดัชนี BCAP Smart Momentum Index (BMOMENT) เลือกหุ้นที่ราคาอยู่ในขาขึ้นและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่คัดกรองเฉพาะหุ้นที่ราคาไม่ได้ปรับตัวจนราคาสูงมากเกินหรือมีการใช้การกู้ยืมเงินที่ไม่ระมัดระวัง 

 

3.ดัชนี BCAP Quality Growth Index (BQLITY) ลงทุนในหุ้นที่มีโครงสร้างรายได้มั่นคง และมีการรับรู้รายได้ที่โปร่ง ตลอดจนมีแนวโน้มการเติบโตและการลงทุนที่ดี  4.ดัชนี BCAP Selective Dividend Index (BDIV) ลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ และมีแนวโน้มจะจ่ายปันผลดีในระยะยาว โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของราคาและความเสี่ยงทางการเงินประกอบการคัดเลือกและ 5.ดัชนี BCAP Enhanced Low Vol Index (BLOVOL) ลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ หรือมีผลในการลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของราคาและความเสี่ยงทางการเงินประกอบการคัดเลือก

 

 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเหล่านี้มีความเสี่ยงในระดับเดียวกับการลงทุนแบบกระจายตัวในหุ้นโดยทั่วไปโดยมีความเสี่ยงจากความผันผวนจากตลาดหุ้นเป็นหลัก ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มออกกองทุน ETF 5 กองที่ลงทุนตามดัชนีการลงทุนอัจฉริยะดังกล่าวในไตรมาส 2 ของปีนี้

“BCAP Smart Index Series เป็นดัชนีการลงทุนอัจฉริยะที่ บลจ.บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP จัดทำขึ้นสำหรับการลงทุนหุ้นไทยโดยเฉพาะเป็นรายแรกของประเทศไทย อันเป็นการพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้นักลงทุนไทยของบริษัทฯดร.ธนาวุฒิ กล่าว

 

 

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในปีนี้มองว่ายังคงมีความผันผวน ในขณะที่ดัชนีการลงทุนอัจฉริยะทั้ง 5 ตัวนี้ถูกออกแบบเพื่อที่จะเอาชนะดัชนีตลาดในการลงทุนระยะยาว แต่ในระยะสั้นจะมีผลตอบแทนที่แตกต่างกันตามสภาวะตลาด ดังนั้นบลจ. BCAP ขอแนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตหุ้นไทยที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการถือ ETF BMSCITH และ BSET100 เป็นส่วนหลัก (Core Portfolio) และ ETF ที่เหลือทั้งหมดเป็นส่วนเสริมโอกาสการลงทุน (Opportunistic Portfolio) โดยมีการปรับการถือครองโดยการซื้อขาย ETF เหล่านี้ตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดทำให้สามารถปรับพอร์ตให้ตอบสนองต่อสภาวะต่างๆ ในการลงทุนโดยไม่ต้องยุ่งยากในการเลือกหุ้นรายตัวและบลจ.BCAP จะนำเสนอกลยุทธ์การจัดพอร์ตด้วยดัชนีการลงทุนอัจฉริยะพร้อมการออกกอง ETF เหล่านี้ในโอกาสต่อไป 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 มี.ค. 2561 เวลา : 14:40:58
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 2:54 pm