แบงก์-นอนแบงก์
SME Development Bank เดินหน้าปล่อย 'Soft Loan เสริมแกร่ง ระยะ 2'


SME Development Bank ดันเอสเอ็มอีในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (10 S-Curve) เข้าถึงสินเชื่อ “Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะที่ 2” อัตราดอกเบี้ยถูกเพียง 4% ตลอดอายุ 7 ปี วงเงิน 3,000 ล้านบาท เผยปรับ 3 เงื่อนไข อุ้มผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น สำหรับใช้ยกระดับ ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ 

 

 

 

 

 

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) หรือ ธพว. กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เห็นชอบในหลักเกณฑ์ โครงการสินเชื่อ Transformation Loan เสริมแกร่งหรือ Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะที่ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในการปรับปรุงเครื่องจักร ช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ  โดยในส่วนของ ธพว. คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 4% ต่อปีตลอดอายุโครงการ 7 ปี วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย  ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 3,000 ล้านบาท   

 

ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อ Soft Loan ระยะที่ 2 ได้ปรับเงื่อนไขจากโครงการระยะแรกใน 3 ประเด็นหลัก เอื้อให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายย่อย เข้าถึงแหล่งทุนได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น ได้แก่ 1.เปิดโอกาสให้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลสามารถยื่นกู้ได้ 2.เป็นสินเชื่อระยะยาว สามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ถึง 30% ของวงเงินรวมที่ได้รับอนุมัติ และ 3.ผู้ประกอบการรายย่อยกู้เพื่อลงทุนซื้อหรือสั่งทำเครื่องจักรใหม่ได้สูงสุดถึง 15 ล้านบาท โดย 10 ล้านบาทแรก สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้

 

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อเป็นเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ระยะยาวให้เอสเอ็มอียกระดับธุรกิจ นำไปลงทุนซื้อ หรือปรับปรุง ต่อเติม เปลี่ยนเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  ขยายหรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม และต้องเป็นทรัพย์สินประเภทเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรืออาคารถาวร เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของเครื่องจักร แต่ไม่รวมถึงที่ดินและอาคารที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย และให้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับเสริมสภาพคล่องควบคู่ไปด้วย  

  

ทั้งนี้ มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีการยื่นภาษีกับภาครัฐ ในกลุ่มธุรกิจอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) โดยแบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-Curve) คือ  1.อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 2.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4.อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และ 5.อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และเพิ่มใน 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) คือ 1.หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 2.อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 3.อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 4.อุตสาหกรรมดิจิทัล และ 5.อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร  

       

นายมงคล กล่าวเพิ่มเติมว่า สินเชื่อ Soft Loan มีจุดเด่นที่การคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 4%ต่อปีตลอดโครงการ มุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเร่งปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่รองรับการขยายกำลังการผลิต โดยกำหนดวงเงินกู้สูงได้ถึง 90% ของใบสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ เบื้องต้น การพิจารณาสินเชื่อนั้นจะใช้วิธีมาก่อนได้ก่อน (First come, First Served) ดังนั้น ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2561 หรือ จนกว่าวงเงินจะถูกจัดสรรหมดแล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยหลังจากอนุมัติเงินกู้ มีระยะเวลาเบิกเงินกู้ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2562 เบื้องต้นธนาคารคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อไม่ต่ำกว่า600 ราย

ทั้งนี้ จากข้อมูลโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ระยะที่ 1 (โครงการเดิม) วันที่ 31 มกราคม 2561 ธพว. ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 529 ราย วงเงิน 2,914.97 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 417 ราย เป็นวงเงินกว่า 2,258.50 ล้านบาท ถือเป็นการอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่วงเงิน 3,000 ล้านบาท และคาดว่าโครงการระยะที่ 2 จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเช่นเคย เนื่องจากเมื่อประเมินอัตราการชำระเงินกู้ จะพบว่า ระยะเวลาการกู้ยืมระยะเวลา 7 ปี หากกู้วงเงิน 5 แสนบาท ผ่อนเพียงเดือนละ 6,834 บาทต่อเดือน หรือหากกู้ วงเงิน 1 ล้านบาท ผ่อนเพียงเดือนละ 13,668 บาท  ซึ่งถือเป็นเงินกู้ภาระต่ำ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการลงทุนซื้อ เปลี่ยนเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยยกระดับธุรกิจแกร่ง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 เม.ย. 2561 เวลา : 14:34:23
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 7:45 pm