แบงก์-นอนแบงก์
กรุงศรีรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 1/2561 จำนวน 6.2 พันล้านบาท เติบโต 10.1% จากไตรมาส 1/2560


กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 1/2561 ที่แข็งแกร่งจำนวน 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2561 มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ  

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญในไตรมาส 1/2561 

กำไรสุทธิ: จำนวน 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากไตรมาส 4/2560 และเพิ่มขึ้น 10.1% จากไตรมาส 1/2560 

เงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 1.5% คิดเป็นจำนวน 22.6 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ สิ้นเดือนธันวาคม 2560การเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อในไตรมาส 1/2561 มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อบรรษัทญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบรรษัทไทยปรับลดลงตามปัจจัยด้านฤดูกาลของการชำระคืนเงินให้สินเชื่อ     

การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 3.8% หรือจำนวน 50.2 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำและออมทรัพย์ 

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.67% ปรับลดลงจาก 3.81% ในไตรมาส 4/2560 สะท้อนถึงการปรับสัดส่วนของพอร์ตสินทรัพย์   

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 15.5% หรือจำนวน 1.19 พันล้านบาทจากไตรมาส 1/2560 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง กองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเช่าซื้อ และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบัตร กำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและรายได้หนี้สูญรับคืน      

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.1% ปรับตัวดีขึ้นจาก 49.7% ในไตรมาส 4/2560   

สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs): อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่สุดที่ 1.96% ปรับลดลงจาก 2.05% ในเดือนธันวาคม 2560 • อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมากที่ 157.0% จาก 148.4% สิ้นปี 2560 

อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 15.61% เทียบกับ 15.65% สิ้นเดือนธันวาคม 2560   

 

 

 


 

 

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรกของปี 2561 เป็นที่น่าพอใจ ด้วยกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งจำนวน 6.2 พันล้านบาท เติบโต 9.4% จากไตรมาส 4/2560 และ 10.1% จากไตรมาส 1/2560 แม้ว่าได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลของการชำระคืนเงินให้สินเชื่อแต่กรุงศรียังสามารถส่งมอบสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสที่โดดเด่น 

ปัจจัยขับเคลื่อนหลักสำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2561 มาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงานและการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันและโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลของกรุงศรี รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.96% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจเอเชียนายโกโตะกล่าวเพิ่มเติม    

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2561 นายโกโตะกล่าวว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ด้วยแรงสนับสนุนจากการเติบโตต่อเนื่องของภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งการเร่งเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของการลงทุนภาคเอกชนและความต้องการสินเชื่อ จากสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุน ส่งผลให้ธนาคารจึงยังคงประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ 4.0% และสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อที่ครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจที่ 6-8% สำหรับปี 2561” 

วันที่ 31 มีนาคม 2561 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยและเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.57 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.37 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.16 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 221.46 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 15.61% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.80%


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 เม.ย. 2561 เวลา : 14:07:49
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

2. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

7. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

13. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 3:39 am