กองทุนรวม
บล.ไทยพาณิชย์เปิดกลยุทธ์ 3 ปี เดินหน้ารุกให้บริการออนไลน์


บล.ไทยพาณิชย์เปิดกลยุทธ์เร่งเครื่องทะยานขึ้นท๊อป 3 ภายใน 3 ปี  ครองมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 5% มุ่งสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มการลงทุนด้วยรูปแบบมัลติแอทเซทเทรดดิ้งระบบซื้อขายใหม่ชื่อว่า “EASY INVEST” เสิร์ฟทุกผลิตภัณฑ์บนจอเดียว เป็นรายแรกในไทย พร้อมปรับกระบวนการแนะนำการลงทุนให้ดูแลลูกค้าได้ดีขึ้น เน้นผนึกความแข็งแกร่งแบงก์แม่เพิ่มงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ป้อนสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มด้วยผลิตภัณฑ์และช่องทางการลงทุนอย่างครบวงจร เสริมความแข็งแกร่งด้วยบทวิเคราะห์เจาะลึกป้อนข้อมูลคุณภาพอย่างมีชั้นเชิง เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายของการเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Broker)” พร้อมตั้งเป้ากำไรสุทธิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท

 

 

 

นายกัมพล จันทวิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า จากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะแบงก์แม่ได้เดินหน้าปรับทัพองค์กรรองรับกระแสดิจิทัลขับเคลื่อนแบงก์สู่แพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญก็คือการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ให้กับลูกค้า การใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้นจะช่วยให้ลูกค้าได้รับการบริการและข้อมูลได้ตรงตามความต้องการในเวลาที่ต้องการ ทำให้มีโอกาสจะสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า โดยบล.ไทยพาณิชย์ เป็นหนึ่งในช่องทางที่สำคัญที่สนับสนุนกลยุทธ์ในการสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้า เนื่องจากมีใบอนุญาตที่ครบถ้วนรวมถึงมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ดังนั้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการให้คำแนะนำ จะช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ และหลากหลายตลาดทั่วโลกได้ง่ายขึ้น เป็นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนให้กับนักลงทุน

 

 

 

นอกจากนี้ บล. ไทยพาณิชย์ ยังมุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทุกด้าน โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า มุ่งสู่เป้าหมายของการเป็น บริษัทหลักทรัพย์ที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Broker)”  โดยจะมุ่งพัฒนาบุคลากร กระบวนการให้คำแนะนำ รวมถึงระบบออนไลน์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะให้คำแนะนำที่ตรงกับลูกค้าในเวลาที่ลูกค้าต้องการ ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ด้านการลงทุน ชื่อว่า “EASY INVEST”รวมทุกผลิตภัณฑ์บนจอเดียว เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมต่อการลงทุนได้ทุกรูปแบบ ทั้งในหุ้นไทยหุ้นต่างประเทศ, Mutual Fund, Derivative, Bond, Algo Trading, Robo Advisor และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางเดียว เป็นการรวมพอร์ตการลงทุนไว้ที่เดียวสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาบทวิจัยและนำส่งบทวิจัยและคำแนะนำให้กับนักลงทุนแต่ละรายให้เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุน ซึ่งในปีนี้บริษัทเน้นเจาะฐานลูกค้าผู้มีรายได้มั่งคั่ง (Wealth) ที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก โดยตั้งเป้ามีฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 2 แสนบัญชีภายในปีนี้ จากปัจจุบัน 1 แสนบัญชี  

 

จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์มากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถสร้างสมดุลสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ปัจจุบันที่ 65% และธุรกิจอื่นๆ 35% ให้อยู่ในระดับ 50:50 โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาการให้บริการด้านอื่นๆ มากขึ้น ทั้งการให้บริการซื้อขายตราสารหนี้  การลงทุนในต่างประเทศ การให้บริการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์ โดยปัจจุบันบริษัทก้าวขึ้นสู่เป็นผู้ออก DW ที่ครอบคลุมหุ้นอ้างอิงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะเชื่อว่าในระยะยาวการใช้งานผ่านช่องทางนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

ขณะนี้บริษัทได้เปิดให้บริการรับฝากตราสารหนี้ (BOND) ในระบบ Scriptless ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้มีความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวใบตราสารหนี้สูญหาย อีกทั้งมีบริการแจ้งดอกเบี้ยที่จะเข้าบัญชีล่วงหน้ารวมถึงตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดในแต่ละเดือน พร้อมบทวิเคราะห์แบบมืออาชีพ บริการดังกล่าวเป็นบริการ ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม  ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มให้บริการมา 3 เดือนมีผู้ลงทุนนำตราสารหนี้มาฝากมากกว่า 5 พันล้านบาท และน่าจะเกิน 1 หมื่นล้านบาทก่อนสิ้นปี

 

 

 

 นอกจากนี้ บริษัทยังปรับปรุงบริการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ (FOREIGN INVESTMENT) เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้มากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดยมีผู้แนะนำการลงทุนหุ้นต่างประเทศพร้อมบทวิเคราะห์บริษัทชั้นนำระดับโลกจาก Morningstar  พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมถูกที่สุดในตลาดเทียบเท่ากับการซื้อขายหุ้นไทย  ไม่มีขั้นต่ำ ไม่กำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ อีกทั้ง  ฟรีค่าธรรมเนียมในการโอนเงินเพื่อเข้าไปซื้อหุ้นต่างประเทศ อีกด้วย

แผนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ก็คือ บุคลากร โดยปัจจุบันบล.ไทยพาณิชย์มีทีมบริหารงานคุณภาพพร้อมด้วยบุคลากรที่มีความสามารถทำให้เชื่อมั่นได้ว่า บริษัทจะสามารถมุ่งสู่การเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Broker)” ด้วยบริการ ผลิตภัณฑ์ และช่องทางที่ตอบสนองนักลงทุนได้ดีที่สุดอย่างครบวงจร โดยปีนี้ตั้งเป้ากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท” นายกัมพล กล่าว


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 มิ.ย. 2561 เวลา : 14:35:27
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 7:28 pm