กองทุนรวม
บลจ.ไทยพาณิชย์ ชูกองทุนเฮลท์แคร์ 'SCBGHC-SCBRMGHC' ผลงานเด่น มองหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ทั่วโลกน่าสนใจลงทุนในระยะยาว


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ ได้มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์อยู่ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCB GLOBAL HEALTHCARE EQUITY FUND : SCBGHC) โดยมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 14.12% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 12.79% และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCB GLOBAL HEALTHCARE RMF: SCBRMGHC) มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 13.64% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 12.35% ซึ่งดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานของทั้งสองกองทุนที่มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.21% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 11.99%  (ข้อมูล วันที่ 19 กันยายน 2561)

 

 

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ และบริการด้านสาธารณสุข รวมถึงธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพได้รับประโยชน์จากมูลค่าพื้นฐานที่ปรับตัวลดลง และความกังวลด้านราคายาในสหรัฐฯ ที่เริ่มคลี่คลาย เช่นเดียวกับการปรับตัวดีขึ้นในดัชนี MSCI World Health Care ซึ่งถือเป็นดัชนีอ้างอิงของกองทุน ส่งผลให้กองทุนเฮลธ์แคร์ทั้ง 2 กองทุนมีผลดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ที่ผ่านมาได้มีการจ่ายปันผลกองทุน SCBGHC สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2560 –  31 สิงหาคม 2561 ในอัตราหน่วยละ 0.2096 บาท

สำหรับกองทุน SCBGHC และ กองทุน SCBRMGHC มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Janus Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนที่มีการบริหารเชิงรุก โดย Janus Capital Management LLC จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์และอยู่ภายใต้ UCITS ลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร หรือตลาดอื่นใดที่ได้รับประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต

โดยปัจจุบันกองทุนหลัก Janus Global Life Sciences Fund  มีจำนวนหลักทรัพย์ในพอร์ตประมาณ 70 – 100 ตัว กระจายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยที่เกี่ยวข้องในหลากหลายมูลค่าตลาด เช่น ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ยาและเภสัชกรรม บริการด้านสาธารณสุข และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ซึ่งมีการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณของหุ้นบริษัทในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเฮลธ์แคร์ทั่วโลก

ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ได้รับแรงกดดันมาโดยตลอดจากแผนการกำหนดเพดานราคายา ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในช่วงกลางปี 2018 ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดของแผนการนี้ซึ่งไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคาดไว้ จึงทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลนี้ลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดันดังกล่าวยังคงจะไม่มีความชัดเจนในเวลาอันใกล้และสร้างความผันผวนให้กับราคาหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยเฉพาะกลุ่ม pharmaceuticals และ biotech ไปจนถึงอย่างน้อยในช่วงเลือกตั้งกลางสมัย (midterm elections) ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม บลจ.ไทยพาณิชย์ มองว่าหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ทั่วโลกยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว เนื่องจากสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลองค์การอนามัยโลกระบุว่าสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีนั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ในปี 1950 เป็นร้อยละ 17 ในปี 2050 ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสูงกว่ากลุ่มอื่นกว่า 3 เท่า ขณะที่นวัตกรรมทางการแพทย์และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทมียอดขายและบริการทางการแพทย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ก.ย. 2561 เวลา : 15:06:58
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

2. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

7. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

13. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 5:46 am