เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
IMF ห่วง "สงครามการค้า" ต้นเหตุ! "วิกฤติการเงินรอบใหม่"


พิษสงครามการตอบโต้ทางการค้า กำลังส่งผลให้เห็นอย่างชัดเจนจากการฉุดเศรษฐกิจโลกในปีนี้ให้ชะลอลง และอาจทำให้เกิดวิกฤติการเงินรอบใหม่  


กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF   เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ความตึงเครียดทางการค้าอาจกลายเป็นชนวนกระตุ้นให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกขึ้นมาอีกครั้ง จากปัจจุบันที่ตลาดการเงินโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว โดยอาจทำให้เกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ทั่วโลก เกิดการเทขายอย่างฉับพลันตามมา และนำไปสู่วิกฤตการณ์อีกครั้งนับตั้งแต่วิกฤตซับไพรม์ปี 2008

ซึ่งตลาดหุ้นโดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ กำลังมีราคาสูงเกินหน้าตลาดอื่นๆ และมีการทุบสถิตินิวไฮหลายครั้งในปีนี้  สะท้อนว่านักลงทุนยังคงพร้อมเสี่ยงมุ่งหาผลตอบแทนสูง จนอาจประเมินความเสี่ยงของตลาดการเงินโลกที่กำลังตึงตัวต่ำเกินไป และความไม่แน่นอนของการค้าโลกในขณะนี้ ก็อาจกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนได้อย่างรวดเร็ว  จนอาจทำให้เกิดการเทขายอย่างฉับพลัน

รายงานระบุด้วยว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เผชิญกับสภาวะสินเชื่อตึงตัวมาตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ความตึงเครียดทางการค้า และความเสี่ยงทางการเมืองและนโยบายในบางประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นแล้วกับอาร์เจนตินาที่ต้องขอเข้าโครงการเงินกู้จากไอเอ็มเอฟ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.87 ล้านล้านบาท) โดยเป็นวงเงินสูงที่สุดที่เคยขอกู้กับไอเอ็มเอฟ เช่นเดียวกับตุรกีที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อและค่าเงินลีราร่วง

ไอเอ็มเอฟยังประเมินด้วยว่า หากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินรอบใหม่ขึ้นจริง กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) ยกเว้นจีน อาจเผชิญภาวะทุนไหลออกไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ (เกือบ 3.3 ล้านล้านบาท) ภายในเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นปริมาณใกล้เคียงกับวิกฤตการณ์ครั้งที่ผ่านมา

IMF ยังระบุถึงเศรษฐกิจโลกด้วยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าจะขยายตัวหรือเติบโตในอัตราที่เท่ากันที่  3.7%  โดยตัวเลขดังกล่าว ลดลงจากการประเมินครั้งก่อนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ระบุว่า จะเติบโตในอัตรา 3.9% ทั้งสองปี ซึ่งเป็นการปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจโลกลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี 

โดยในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ในอัตรา 2.9% แต่พิษภัยของสงครามการค้าจะส่งผลในปีหน้า ทำให้เติบโตเพียง 2.5 %ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่  2.7%

ขณะที่เศรษฐกิจของจีน ในปีนี้จะยังคงการเติบโตไว้ที่  6.6% แต่จากผลจากสงครามการค้าจะทำให้เศรษฐกิจของจีนในปีหน้าเติบโตลดลงมาอยู่ที่ 6.2% ต่ำกว่าที่เคยประมาณการไว้ที่ 6.4%
 
         

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ต.ค. 2561 เวลา : 12:57:12
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

7. ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ.10% กรุงเทพปริมณฑล ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (24 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 เม.ย.67) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.72 จุด

12. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

14. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 6:32 am