กองทุนรวม
ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเชิญร่วมประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นปี 2561


ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเปิดให้กองทุนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นปีที่ 7 ประจำปี 2561 ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเฟ้นหากองทุนที่มีธรรมาภิบาลการลงทุน มุ่งเน้นมาตรฐานในการควบคุมและตรวจสอบการจัดการลงทุน ส่งเสริมกระบวนการให้ความรู้แก่สมาชิก เพื่อให้เงินกองทุนงอกเงย รับสมัครตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561       


ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (สมาคมฯ) เชิญชวนกองทุนที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นปีที่ 7 ประจำปี 2561 ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อคัดเลือกกองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ธรรมาภิบาลการลงทุน  มาตรฐานในการควบคุมและตรวจสอบการจัดการลงทุนเพื่อให้เงินกองทุนงอกเงย บทบาทของบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.)  ต่อการส่งเสริมกระบวนการให้ความรู้แก่สมาชิก  และการพัฒนาอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
 
โดยครั้งนี้ยังคงนำเรื่องการประกาศรับปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลการลงทุน หรือ I Code เป็นหนึ่งในเกณฑ์ การพิจารณาตัดสิน และมีโล่รางวัลกองทุนพัฒนาดีเด่นจาก ก.ล.ต. ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับกองทุนที่มีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และให้ความสำคัญกับแสดงผลการดำเนินงานของกองทุนตามมาตรฐานสากล (Global Investment Performance Standard: GIPS)

ดร. พิสิฐ ลี้อาธรรม นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กล่าวว่า “การประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ชิงโล่พระราชทานในครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 7 แล้ว วัตถุประสงค์สำคัญที่จะคัดเลือกกองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี เป็นที่ยอมรับของสมาชิกกองทุน สามารถทำให้เงินทุนของสมาชิกงอกเงย พอเพียงสำหรับไว้ใช้จ่ายในชีวิตภายหลังเกษียณ โดยรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนที่ชนะการประกวด สามารถนำไปเป็นตัวอย่างให้แก่กองทุนอื่น ๆ ได้ และยังกระตุ้นวงการอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เป็นที่รับรู้ของสังคมไทยมากยิ่งขึ้น
 
การจัดประกวดแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทกองทุนรัฐวิสาหกิจ ประเภทกองทุนบริษัทเอกชน และประเภทบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กองทุนที่สนใจสามารถสมัคร และส่งเอกสาร เข้าประกวดได้ถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 และจะประกาศผลพร้อมมอบโล่รางวัล ในวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท”

นางณัฐญา นิยมานุสร  ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  กล่าวว่า “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเครื่องมือเพื่อการออมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องระยะยาว เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับตนเองได้เอาไว้ใช้จ่ายเมื่อยามเกษียณอายุ ซึ่งจะมีรายได้น้อยลงมากหรือไม่มีรายได้ แต่ยังคงต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพและการดูแลสุขภาพของตนเอง ปัจจุบันมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้นจำนวน 383 กองทุน มีลูกจ้างรวมกันเป็นจำนวน 3 ล้านคน นายจ้างรวม 17,866 ราย มีสินทรัพย์รวมกันประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท กองทุนจึงเป็นแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
 
การจัดโครงการประกวดในครั้งนี้ จึงจะช่วยส่งเสริมให้นายจ้างให้ความสำคัญกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้ได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ที่ทั้งฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างจะได้รับจากการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการดูแลลูกจ้างที่เสมือนเป็นสวัสดิการให้มีเงินเพียงพอสำหรับอนาคตหลังเกษียณ และการนำหลัก I Code มาเป็นปัจจัยในการให้คะแนน สอดคล้องกับสิ่งที่ ก.ล.ต. ผลักดันให้ผู้ลงทุนสถาบันซึ่งรวมถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้มีการลงทุนอย่างรับผิดชอบ คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดีของกิจการที่ไปลงทุนอีกด้วย”

ทั้งนี้ กองทุนที่จะเข้าร่วมประกวด จะต้องเป็นกองทุนที่จดทะเบียนกับ ก.ล.ต. ไม่น้อยกว่า 3 ปี และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือผู้อำนวยการสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในการเข้าร่วมประกวด โดยการจัดประกวดกองทุนจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ (1) ประเภทกองทุนรัฐวิสาหกิจ (2) ประเภทกองทุนบริษัทเอกชน และ (3) ประเภทบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดย 2 ประเภทแรกเป็นการประกวดกองทุนเดี่ยว และประเภทที่ 3 เป็นการประกวดกองทุนร่วม (pooled fund)

สำหรับการพิจารณาคัดเลือก สมาคมฯ จะแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อพิจารณาเอกสารการสมัคร โดยกองทุนที่ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในรอบนี้จะผ่านเข้าสู่รอบสัมภาษณ์ ซึ่งคณะกรรมการจะนำคะแนนทั้งสองรอบมาประกอบการพิจารณาตัดสินหาผู้ชนะเลิศ และผู้ได้รับรางวัลอื่น ๆ ต่อไป โดยจะมีการประกาศผลและมอบรางวัล  ซึ่งจะจัดขึ้นที่โรงแรมโซฟิเทล ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ต.ค. 2561 เวลา : 17:08:04
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 11:48 am