หุ้นทอง
ก.ล.ต. จัดสัมมนา Thailand SEC Policy Dialogue 2018 มุ่งหวังให้กลไกตลาดมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนตลาดทุน


“ก.ล.ต.” จัดสัมมนา Thailand SEC Policy Dialogue 2018: Regulating by Market Forces โดยมุ่งหวังให้กลไกตลาดมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดทุนแทนที่จะใช้การออกกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว และนำเสนอผลงานวิจัยยอดเยี่ยมประจำปี เรื่อง พฤติกรรมการลงทุนและลักษณะผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นในประเทศไทย

 
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดสัมมนาในหัวข้อ Thailand SEC Policy Dialogue 2018: Regulating by Market Forces ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการพูดคุยเชิงนโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญ อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนสถาบัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บริษัทจดทะเบียน และผู้ประกอบธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้กลไกตลาดมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดทุนแทนที่จะใช้การออกกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว

งานสัมมนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศมาร่วมกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของผู้มีส่วนร่วมในตลาดในการพัฒนาตลาดทุน และร่วมเสนอแนะการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้การทำงานของผู้มีส่วนร่วมในตลาดมีประสิทธิภาพ อาทิ การมีข้อมูลที่มีคุณภาพ และการแข่งขันที่เป็นธรรม

 
 
 
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ตลาดทุนที่พัฒนาและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนจะพึ่งพาการออกกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องอาศัยการเห็นประโยชน์และการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยตัวกิจการเอง รวมถึงแรงผลักดันจากผู้มีส่วนร่วมในตลาด ด้วยการมีข้อมูลที่มีคุณภาพ ซึ่งการแข่งขันที่เป็นธรรมจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยมีกลไกตลาดที่เข้มแข็ง และทำให้ตลาดทุนไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ในงานนี้มีการนำเสนอผลงานวิจัยยอดเยี่ยมประจำปีจากการประกวดงานวิจัย SEC Working Papers Forum 2018 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. กับสถาบันการศึกษาและองค์กรชั้นนำ จัดให้มีการประกวดงานวิจัยทางวิชาการด้านตลาดทุนยอดเยี่ยมโดยเปิดรับผลงานจากบุคคลทั่วไปไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางตลาดทุนหรือนักวิชาการจากสถาบันต่าง ๆ โดยงานวิจัยยอดเยี่ยมประจำปีคืองานวิจัย เรื่อง “พฤติกรรมการลงทุนและลักษณะผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นในประเทศไทย" ซึ่งเป็นผลงานของ ผศ.ดร.คณิสร์ แสงโชติ และ ดร.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น

นอกจากนี้ งานวิจัยได้พบประเด็นที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ (1) เมื่อนำความเสี่ยงเข้าไปปรับกับผลตอบแทนแล้ว กองทุนรวมหุ้นที่มีค่าธรรมเนียมบริหารจัดการสูงมีแนวโน้มที่จะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด และผลการดำเนินงานที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียม (2) กองทุนรวมหุ้นในไทยส่วนใหญ่ไม่มีลักษณะเชิงรุกในการบริหารจัดการ (Active) และได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม จึงมีข้อสังเกตว่าผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับประโยชน์มากกว่าหากลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐาน (Passive)

และ (3) กองทุนรวมหุ้นในไทยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชีที่สูง และหุ้นที่มี momentum สูง (หุ้นที่มีผลตอบแทนในอนาคตในทิศทางเดียวกับผลตอบแทนในอดีต) แต่ผลการดำเนินงานของกองทุนไม่ได้สูงเหมือนผลตอบแทนของหุ้นที่กองทุนเข้าซื้อ สะท้อนว่ากองทุนอาจเป็นผู้เข้าซื้อหรือขายจนเป็นการไล่ราคาหุ้นแต่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ได้ประโยชน์ อย่างเต็มที่ ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2yu1I4U

งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลต่อการตัดสินใจลงทุน ซึ่งค่าธรรมเนียมนับว่าเป็นข้อมูลสำคัญ เพราะมีผลต่อผลตอบแทนของผู้ลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเปรียบเทียบเรื่องนี้ได้จากสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (factsheet) ของแต่ละกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนเพื่อให้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ข้อมูลอื่น ๆ อาทิ นโยบายการลงทุน การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกองทุน เงื่อนไขการลงทุน และการถือครองหลักทรัพย์ของกองทุนรวมก็เป็นข้อมูลที่สำคัญที่ต้องศึกษา เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ลงทุน

“ก.ล.ต. เชื่อว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดทุน ด้วยการช่วยกันขับเคลื่อนพลังกลไกตลาดหรือ Market Forces เพื่อประโยชน์ในระยะยาวแก่ทุกคน” นายรพี กล่าวเสริม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 พ.ย. 2561 เวลา : 14:54:54
23-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

2. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

3. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

5. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 2,330 เหรียญ

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (22 เม.ย.67) ร่วง 67.40 เหรียญ แห่เทขายทอง หลังคลายกังวลความตึงเครียดอิหร่าน - อิสราเอล

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (22 เม.ย.67) บวก 253.58 จุด รับแรงช้อนซื้อหลังหุ้นตกหนัก -จับตาผลประกอบการบริษัทเทคฯรายใหญ่

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (23 เม.ย. 67) ร่วงแรง 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,050 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

11. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 20-30% กรุงเทพปริมณฑลและภาคอื่นๆ ฝน 10% / อุตุฯเตือน 24-25 เม.ย.มีพายุฤดูร้อน

12. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 เม.ย.67) บวก 5.89 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,355.41 จุด

13. พรุ่งนี้ น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และพรีเมี่ยม GSH95 ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร

14. ตลาดหุ้นปิด (22 เม.ย.67) บวก 17.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,349.52 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 เม.ย.67) บวก 15.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,347.10 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 11:13 pm