หุ้นทอง
"บล.บัวหลวง" ชี้หุ้นร่วงเดือนพ.ย.แห่เก็งกำไร Put DW ทำนิวไฮ


หลักทรัพย์บัวหลวง เผย DW เดินหน้าสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องท่ามกลางตลาดหุ้นร่วงเดือนพ.ย. เทรด Put DW พุ่ง สะท้อนนักลงทุนเริ่มเห็นโอกาสเป็นเครื่องมือทำกำไรตลาดลง หนุนสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย DW ต่อหลักทรัพย์ทั้งระบบสูงถึง 9.7% นิวไฮใหม่  ด้าน“บัวหลวง”ยังกอดมาร์เก็ตแชร์เหนียวแน่น พร้อมแนะเทคนิคลงทุนก่อนหยุดยาว ตรวจสอบค่าเสื่อมเวลาของผู้ออก DW


นายบรรณรงค์  พิชญากร  กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออก DW ที่มีปริมาณการซื้อขายในระบบสูงสุดเป็นอันดับ 1 เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 3,945.2 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย DW ต่อหลักทรัพย์ทั้งระบบอยู่ที่ 9.7% สูงสุดนับตั้งแต่มีการเสนอขาย DW ในประเทศไทย สะท้อนตลาด DW ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย Put DW มีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดในรอบ 5 เดือน สอดคล้องกับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 27.29 จุดหรือคิดเป็นร้อยละ -1.64

นักลงทุนเริ่มเก็งกำไรตลาดขาลงได้ดีขึ้นเห็นได้จากสัดส่วน Put DW ที่ซื้อขายสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย DW อ้างอิง SET50 Index ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดด้วยสัดส่วนมูลค่าซื้อขาย 59.4% ของมูลค่าซื้อขาย DW ทั้งระบบ ซึ่งแรงเก็งกำไรมาจาก DW ประเภท Put เป็นสัดส่วนสูงถึง 64.3% ของมูลค่าซื้อขาย DW อ้างอิง SET50 Index ทั้งหมด ตามทิศทางตลาดที่ปรับตัวลดลง"นายบรรณรงค์ กล่าว

สำหรับ DW ที่ได้รับความสนใจอันดับ 2 และ อันดับ 3 ยังคงเป็น DW ที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัว ได้แก่ PTTEP และ BEAUTY นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ DW อ้างอิงหุ้นดังกล่าว หลังจากราคาหุ้น PTTEP และ BEAUTY ปรับตัวพร้อมความผันผวนที่สูงขึ้น โดย DW อ้างอิงหุ้น PTTEP มีสัดส่วนการซื้อขาย 2.8% ในขณะที่ DW อ้างอิงหุ้น BEAUTY มีสัดส่วนการซื้อขาย 2.7%

ขณะเดียวกันจำนวน DW ที่มีการเสนอขายในตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนพ.ย.61 มีทั้งสิ้น 1,574 รุ่น สูงสุดในรอบประวัติการณ์ แบ่งเป็น Call DW 1,346 รุ่นและ Put DW 228 รุ่น เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นเดือน ต.ค. 61 ที่มีจำนวน 1,512 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,301 รุ่นและ Put DW 211 รุ่น โดยจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการเสนอขาย ณ สิ้นเดือน พ.ย. 61 มีทั้งสิ้น 113 ตัว ลดลงเล็กน้อยจากเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

“หลักทรัพย์บัวหลวงยังครองความเป็นผู้นำในการออก DW สูงสุดในอุตสาหกรรมจำนวน 310 รุ่นคิดเป็น 19.70% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นผู้ออก Put DW มากถึง 100 รุ่น เมื่อเทียบในอุตสาหกรรมระบบที่มี Put DW เสนอขายทั้งหมด 228 รุ่น รวมทั้งมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 73.45% ของทั้งหมดในอุตสาหกรรม DW และยังครองส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือนพ.ย.61 อยู่ที่ 41.0% สะท้อนความนิยมในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เมื่อพิจารณาในส่วน DW อ้างอิงหุ้นรายตัว ซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักลงทุนรายย่อย หลักทรัพย์บัวหลวงมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมสูงถึง 53.4%

นายบรรณรงค์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในช่วงเดือนธ.ค.ซึ่งจะมีวันหยุดปีใหม่ยาว 4 วัน ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับค่าเสื่อมเวลาของDW ในช่วงวันหยุด ซึ่งเป็นต้นทุนในการลงทุน ซึ่งปัจจุบันDW ในอุตสาหกรรมจะมีทั้งแบบ “คิด” และ “ไม่คิด” ค่าเสื่อมเวลาในช่วงวันหยุด ดังนั้นจึงแนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขกับผู้ออก DW แต่ละรายก่อนการลงทุนทุกครั้ง โดยเฉพาะหากมีแผนหรือมีโอกาสที่จะถือ DW ข้ามวันหยุดยาว เพราะถือเป็นต้นทุนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้

อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนที่เทรด DW01 ของหลักทรัพย์บัวหลวงไม่จำเป็นต้องรีบขายออกหากกังวลค่าเสื่อมเวลาในช่วงวันหยุด เพราะ DW01 ทุกรุ่นจะไม่คิดค่าเสื่อมเวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี  ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงจะคิดค่าเสื่อมเวลาเฉพาะวันทำการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดซื้อขายเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ DW01 ทุกรุ่นถูกคิดค่าเสื่อมเวลาเฉพาะวันที่นักลงทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการเทรด DW และช่วยลดปัจจัยในการตัดสินใจถือครอง DW ข้ามวันหยุดยาวโดยไม่ต้องกังวลกับค่าเสื่อมเวลาในวันหยุดดังกล่าว

“ในช่วงเวลานี้ของทุกปีที่มีวันหยุดยาว มักพบนักลงทุนมีความกังวลกับค่าเสื่อมเวลาและส่วนหนึ่งรีบขาย DW ออกไปก่อนช่วงหยุดยาว เพื่อหลีกเลี่ยงค่าเสื่อมเวลาในช่วงวันหยุด ดังนั้นนักลงทุนควรตรวจสอบเงื่อนไขกับผู้ออกก่อน หากผู้ออกไม่คิดค่าเสื่อมเวลาช่วงวันหยุด นักลงทุนก็สามารถถือ DW ต่อได้โดยไม่ต้องรีบขายก่อนหยุดยาว”นายบรรณรงค์ กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ธ.ค. 2561 เวลา : 14:38:57
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:54 pm